เมษายน 20, 2024, 05:09:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อารมณ์ที่หลงอยู่  (อ่าน 17694 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ประวิต
พุทธบุตร
*****

พลังความดี : 19


อายุ: 52
กระทู้: 265
สมาชิก ID: 1634


อีเมล์
« เมื่อ: มกราคม 24, 2013, 08:20:44 PM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
ธัมมารมณ์---หรืออารมณ์---ที่เราหลงอยู่---นั่นคืออะไร---ดูป็นคำถามที่วุ่นวายและยากในการตอบ---เพราะคำว่าหลง--หลง--คำเดียว.........




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 25, 2013, 06:58:22 PM โดย ประวิต » บันทึกการเข้า
putchachaiyawut
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: หญิง
อายุ: 34
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2827


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2014, 01:36:05 PM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
สาธุๆ _/\_
บันทึกการเข้า
Surasakkkkkkk
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


เพศ: ชาย
อายุ: 38
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2835


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 11:23:24 AM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
สาธุครับสาธุ
บันทึกการเข้า
Sommruedee
เด็กใหม่
*****

พลังความดี : 0


อายุ: 9
กระทู้: 2
สมาชิก ID: 2842


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2014, 03:39:00 PM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
ความหลงคือหนทางที่ทำให้ทุกข์
บันทึกการเข้า
ประวิต
พุทธบุตร
*****

พลังความดี : 19


อายุ: 52
กระทู้: 265
สมาชิก ID: 1634


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2014, 10:33:47 PM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
ใครเล่าเป็นผู้หลงและผู้รู้ว่าหลงและหลงมันคืออะไร
บันทึกการเข้า
เกียรติคุณ
ผู้ปฏิบัติธรรม
*****

พลังความดี : 65


เพศ: ชาย
อายุ: 46
กระทู้: 958
สมาชิก ID: 841


« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 02, 2014, 01:04:38 AM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
- ธรรมารมณ์ไรๆที่เป็นอกุศลลามกทั้งปวง ย่อมเป็นไปในราคะ
- ความกำหนัดในธรรมมารมณ์ ย่อมเป็นไปใน โลภะ โทสะ โมหะ
- ธรรมมารรมณ์ใดๆอันประกอบด้วยโมหะทั้งหลาย เมื่อเสพย์เข้าไปย่อมหลงอยู่ฉะนั้น
- โกรธจนลืมตัวขาดสติ เพราะมีจิตจดจ่อลุ่มหลงเสพย์กับอกุศลวิตกอันเป็นไปในพยาบาท
- เมื่อมิจฉาสังกัปปะเข้าไป ในขณะใดขณะหนึ่งย่อมมีความโลภทำให้เพลินเพลินในอารมณ์ปรุงแต่งอันเร่าร้อนนั้นๆจนหลงลืมไม่รู้ทันอกุศลจิต ไม่รู้ตัวทั่วพร้อม
- ความเพลิดเพลินไรๆอันดำเนินไป เมื่อเสพย์แล้วย่อมหลงลืมปัจจุบันขณะ มีจิตน้อมเสพย์ความเพลิดเพลินยินดีนั้นไปไม่รู้ตัว

พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับพระสารีบุตรว่า(ขอกล่าวโดยย่อ)

ดูกร ! สารีบุตร ธรรมารมณ์ที่ควรเสพย์ และ ไม่ควรเสพย์ เป็นไฉน
-ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้กุศลเสื่อมลง แล้วอกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆไม่ควรเสพย์
-ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้อกุศลเสื่อมลง แล้วกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆควรเสพย์

ความหลงมีสภาพอันปกปิดสติไว้ ปิดกั้นความรู้ตัว ทำให้หลงลืมสภาวะที่เป็นปัจจุบันขณะ เปรียบดั่ง กองถ่ายละครที่มีผู้กำกับฉากละคร ชี้ตั้งให้เรานั้นเป็นพระเอก เราก็เสพย์อารมณ์ว่าเราเป็นพระเอก ซึ่งเล่นไปตามบทบาทที่ผู้กำกับฉากละครตั้งไว้ แม้รู้ว่าเป็นละครแต่เมื่อได้เล่นก็เสพย์ความเพลิดเพลินจนคิดว่าตนเป็นบุคคลนั้นๆต้องกระทำนั้นมีความรู้สึกนั้นๆตามที่ผู้กำกับฉากละครเขียนบทให้เป็น จนหลงลืมความเป็นจริงว่าตนเป็นใครฉันใด โมหะก็เปรียบดั่งผู้กำหับฉากละครที่เขียนบทละครให้เราเล่นฉันนั้น ส่วนบทละครแต่ละบทบาทที่เล่นก็คือ อกุศลมูล ๓ นั้นเอง

- เมื่อความหลงเกิดขึ้นกับผู้ติดดี คือ กรรมฐาน หรือ อ่านแล้ววิเคราะห์ โยนิโสมนสิการตามแล้วพิจารณาโดยอนุมานคาดคะเนเอา พบเจอสภาวะใดๆบ้างทั้งจริงและไม่จริงจนหลงว่าตนถึงสภาวะนั้นๆนี้ๆแล้ว โดยขาดความยั้งคิด ทบทวนจนเห็นตามจริงว่า เราอยู่สภาวะอย่างไร อันนี้อุปาทานในธรรมมารมณ์ย่อมเกิดขึ้นแก่จิตทันที ผู้ไม่รู้จิตย่อมไม่ทันความหลงของธัมมารมณ์นี้
- เมื่อจะละก็ให้ละที่ใจ เจริญสัมมัปปธาน ๔ กล่าวโดยย่อคือ พึงละอกุศลที่ยังไม่เกิดหรือเกิดขึ้นแล้ว ทำกุศลให้เกิดขึ้น คงกุศลไว้ รักษากุศลไว้ไม่ให้เสื่อม เจริญอนุสสติ ๖ อยู่เนืองๆ พึงระลึกว่าเรายังปุถุชนอยู่ยังเห็นแค่ปุถุชน แล้วเราจักไปสาธยายในสิ่งที่พระอริยะเจ้ารู้ ด้วยความวิตกเห็นว่า เรามาถูกแล้ว ทางเราตรงแล้ว ทางเราดีแล้ว ทางเราดีสุด ของเราดีสุดได้ยังไร ธรรมชาติที่อุปาทานสภาวะธรรมไรๆ คือ สภาวะของปุถุขน ผู้รู้และเข้าถึงย่อมไม่กล่าววาจา กระทำทางกาย และ คิดอย่างปุถุชนเป็นแน่แท้ พึงเจริญปธาน๔ อนุสสติ๖ อันพระพุทธเจ้าตรัสสอนว่าเป็นเครื่องขัดเกลาสงบกิเลสอันดีนี้ก็จะรู้ตนเองเมื่อผ่านวันเวลาไปว่า หลงหรือไม่ หรือตรงไหน ติดที่ใดเอง ส่วนวิธีเจริญปธาน๔ อนุสสติ๖ นั้นลองหาตามทางพระพุทธเจ้าตรัสสอนหรือตามวีถีกุศลของแต่ละคนดูเพราะทางเจริญกุศลของแต่ละคนนั้นต่างกัน แต่อาศัยการปหานด้วยจิตตานุสสติ หรือ จิตตานุปัสสนา เหมือนกัน อะไรที่หลง อะไรที่รู้ว่าหลง ใครหลง หลงอะไร ก็จะเกิดแจ้งขึ้นในตรงนี้ ด้วยประการฉะนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 02, 2014, 08:57:06 PM โดย เกียรติคุณ » บันทึกการเข้า
ประวิต
พุทธบุตร
*****

พลังความดี : 19


อายุ: 52
กระทู้: 265
สมาชิก ID: 1634


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 18, 2014, 01:00:16 PM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
ดูกร ! สารีบุตร ธรรมารมณ์ที่ควรเสพย์ และ ไม่ควรเสพย์ เป็นไฉน
-ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้กุศลเสื่อมลง แล้วอกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆไม่ควรเสพย์
-ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้อกุศลเสื่อมลง แล้วกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆควรเสพย์
บันทึกการเข้า
ประวิต
พุทธบุตร
*****

พลังความดี : 19


อายุ: 52
กระทู้: 265
สมาชิก ID: 1634


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 18, 2014, 09:00:15 PM »

Permalink: อารมณ์ที่หลงอยู่
ดูกร ! สารีบุตร ธรรมารมณ์ที่ควรเสพย์ และ ไม่ควรเสพย์ เป็นไฉน
-ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้กุศลเสื่อมลง แล้วอกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆไม่ควรเสพย์
-ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้อกุศลเสื่อมลง แล้วกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆควรเสพย์
...............แยกไม่ออกเราคือหลง.................แยกออกเราไม่รู้อะไรเลย.........หลงกับไม่หลงต่างกันตรงไหน..........
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ มีนาคม 29, 2024, 12:21:46 AM