วิธีการนั่งสมาธิเพื่อตัดในรูปขันธ์และความรู้อารมณ์ใดๆ
ขอนอบน้อมแด่ พระพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
ขอนอบน้อมแด่พระธรรม ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว
ขอนอบน้อมแด่พระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พระเถระ พระอริยะเจ้าทั้งหลาย ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ที่ควรแก่การเคารพนพน้อม
ธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่ผมโพสท์กล่าวทั้งหมด เป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และตรัสไว้ดีแล้ว ประเสริฐแล้ว หาประมาณมิได้ พึงปฏิบัติและให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นธรรมเพื่อให้เราทั้งหลายได้เห็นทางพ้นทุกข์ จนถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ผมได้นำธรรมอันประเสริฐทั้งหลายเหล่านั้นมาพิจารณาปฏิบัติ กรรมฐาน สมถะ และ วิปัสนา ทำให้ผมได้รู้เห็นและขยายความข้อธรรมและแนวปฏิบัติต่างๆตามจริต และ สติกำลังร่วมกับปัญญาของผมได้ดังนี้...หากธรรมที่ผมได้โพสท์กล่าวนั้นมีความผิดพลาด ผิดเพี้ยน ไม่เป็นจริงด้วยประการใดๆ ขอท่านทั้งหลายพึงรู้ว่าธรรมนั้นมาจากความคิดพิจารณาด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดของผมแล้วกลั่นกรองออกมาเป็นแนวทางปฏิบัตินั้นๆ หากเป็นคุณประโยชน์แก่ท่านทั้งหลายให้พึงระลึกรู้โดยจริงว่า ธรรมอันประเสริฐทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นแล เป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และตรัสสอน ไม่ใช่ธรรมของผมแต่อย่างใด
บัดนี้ข้าพเจ้าขอแสดงธรรมเรื่อง วิธีการนั่งสมาธิเพื่อตัดในรูปขันธ์และความรู้อารมณ์ใดๆ ตามวิธีที่ผมศึกษาเรียนรู้ปฏิบัติมา เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินไปในธรรมดังนี้
- เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อาราธนาขอคุณกรรมฐานต่อพระพุทธเจ้า
โดยระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นเอกใน 3 โลก ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ
ได้ตรัสแสดงธรรมนั้นเพื่อให้ผู้อื่นได้รู้ทางพ้นทุกข์นี้ตามแล้ว
ระลึกถึงคุณของพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนนั้น
ด้วยเป็นธรรมจริง ประเสริญและไเราะ
เป็นธรรมอันประกอบไปด้วยประโยชน์ และ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล
ระลึกถึงพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นคู่แห่งบุรุษ ๔ คู่นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ (มรรค-ผล) และ พระอริยะเจ้าทั้งหลาย
ซึ่งได้เผยแพร่ธรรมะอันประเสริฐนี้ให้เราได้เรียนรู้ปฏิบัติตาม
ระลึกถึงคุณบิดา-มารดา และ บุพการี ทั้งหลายทุกท่าน
ที่ได้ให้กำเนิด ให้ความรัก และ ได้เลี้ยงดูเรามาอย่างดี ทำให้เราได้พานพบกับพระพุทธศาสนานี้
ระลึกถึงคุณของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
ที่ได้สั่งสอนชี้แนะแนวทางวิชาความรู้ทั้งหลายนี้มา
แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ได้พบทางแห่งการเข้าสมาธิได้โดยง่าย ที่ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล ไม่จำกัดบุคคล ไม่จำกัดระดัลชนชั้น
เมื่อผมได้นั่งสมาธิไปก็ได้พบเห็นหนทางนี้ขึ้นมาทันที และ ได้เพียรปฏิบัติมาซักระยะหนึ่งจนเห็นผลได้ ให้ผลได้ดังนี้
วันนี้ผมจึงได้นำมาเผยแพร่เพื่อเป็นแนวทางแห่งการปฏิบัติกัมมัฏฐานแก่ท่านทั้งหลายดังต่อไปนี้
- พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระอริยะเจ้าทั้งหลาย
ท่านจะตั้งเจตนามั่นว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ก็จะไม่ลุกขึ้นออกจากบัลลังก์ที่นั่งสมาธินี้เด็ดขาด
ท่านจะละทิ้งเสียรูปขันธ์ ไม่ยินดีในรูปขันธ์คือกายนี้แล้ว
แม้จะต้องหิว จะเจ็บปวด จะทรมาน แม้จะต้องตาย ก็ช่างมัน
เมื่อท่านได้ตั้งเจตนาไว้เช่นนี้แล้ว ท่านก็ละเสียซึ่งบ่วงทั้งหลาย
มีกายนี้เป็นเบื้องต้น ละทิ้งความรู้อารมณ์ใดๆที่เกิดจากกายนี้ ละความห่วงใดๆทั้งหลาย
แล้วก็เข้าสู่ความรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมทั้งปวงคือบรรลุเป็นพระอรหันต์
- อย่างเราๆมันยังมีห่วงอยู่ใช่ไหมครับ ยังหวงกายนี้ ยังกลัวความตาย
ก็ไม่อาจที่จะละทิ้งเช่นนั้นได้ใช่ไหมครับ
ทำยังไงก็ตัดรูป ตัดนามไม่ได้เสียที
นั่งๆสมาธิไปก็คิดเรื่อง รักบ้าง โลภบ้าง โกรธบ้าง หลงบ้าง
นั่งๆไปก็รู้สึกเป็นตะคริวบ้าง ปวดขาบ้าง ปวดหลังบ้าง
ก็ทนไม่ไหวเปลี่ยนท่าบ้าง เลิกนั่งบ้าง
"ทีนี้เมื่อเกิดอะไรอย่างนี้ขึ้นแทนที่เราจะเข้าสมาธิได้ แต่กลับไม่ได้แม้ "ขณิกสมาธิ" เลยด้วยซ้ำๆ"
นี่เรียกว่าเพราะยังหวงแหน ยังห่วงอยู่ ยังเอาจิตไปจับอารมณ์ความรู้สึกปรุงแต่งต่างๆอยู่ ทำให้ไปไม่ถึงไหนเสียที
ซึ่งผมเองคนหนึ่งเช่นกันที่เป็นอย่างนี้ ด้วยเพราะเห็นมาจริงและไม่จริงด้วยอนุมานเอาบ้างจนตีกันมั่วไปหมด
เป็นเหตุให้ไม่สามารถหาความสงบให้ใจได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเคย สงบ เข้าสมาธิได้ง่าย เจริญกุศลจิตได้ง่าย
ด้วยเหตุนี้เผมจึงใคร่ขออนุญาต พระคุณเจ้าทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ผู้รู้ทั้งหลายเผยแพร่แนวทางแก้ไขดังนี้ครับ
ยกตัวอย่างเช่น