เมษายน 20, 2024, 08:17:31 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มรณาสันนวิถี  (อ่าน 7204 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไหลเย็น
รู้ธรรมคือรู้ตน
ผู้ดูแลบอร์ด
พุทธบุตร
*****

พลังความดี : 101


เพศ: ชาย
อายุ: 47
กระทู้: 391
สมาชิก ID: 565


« เมื่อ: ธันวาคม 02, 2014, 11:13:44 PM »

Permalink: มรณาสันนวิถี
มรณาสันนวิถี คือ วิถีจิตเมื่อใกล้จะตาย หมายถึง ภวังคจิตได้เปลี่ยนมาเป็นจุติจิต ซึ่งเป็นจิตสุดท้ายในภพชาตินั้น

เมื่อจุติจิตดับลงแล้ว ปฎิสนธิจิตดวงใหม่ก็จะปรากฎขึ้นครั้งแรกในภพชาติใหม่ด้วยอำนาจแห่งการสืบต่อ เพราะยังไม่สิ้นกรรม

กรรมที่นำให้ไปเกิดในภพชาติใหม่คือ ชนกกรรม ทำหน้าที่สร้างรูปนามขึ้นในภพใหม่  แล้ว อุปถัมภกกรรม ก็จะมาอุดหนุนให้ รูปนามนั้นเจริญขึ้นและดำรงอยู่ต่อไป จนกระทั่งสิ้นอายุขัยหรือสิ้นกรรมอีกวาระหนึ่ง

การตายมาจากเหตุ ๔ ประการคือ

๑. อายุกฺขยมรณ เพราะสิ้นอายุ
๒. กมฺมกฺขยมรณ เพราะสิ้นกรรม
๓. อุภยกฺขยมรณ เพราะสิ้นอายุ และ สิ้นกรรม
๔. อุปจฺเฉทกมรณ เพราะประสบอุบัติเหตุทั้ง ๆ ที่กรรมยังไม่สิ้น

 ท่านเปรียบเทียบเหมือนกับตะเกียงจุดไว้ตามบ้านเรือน ย่อมจะดับลงได้ด้วยเหตุ ๔ ประการ คือ เพราะหมดไส้ตะเกียงหมดอย่างหนึ่ง , เพราะหมดน้ำมันอย่างหนึ่ง , เพราะหมดทั้งไส้ทั้งน้ำมันทั้งสองอย่าง  และเพราะโดนลมพัดหรือเป่าให้ดับอีกอย่างหนึ่ง รวมเป็น ๔ ประการด้วยกัน

##*****************
##############

มรณาสันนวิถี มี ๒ ประเภทใหญ่คือ ปัญจทวารมรณาสันนวิถี   และ มโนทวารมรณาสันนวิถี

ขึ้นอยู่กับ อารมณ์ที่มาปรากฎเมื่อใกล้ตายนั้นมาปรากฎทางทวารไหน ถ้าปรากฎทางตา คือได้เห็น  ทางหูคือได้ยิน ทางจมูกคือได้กลิ่น ทางลิ้น คือได้รส  ทางกายคือได้สัมผัสความเย็นร้อนอ่อนแข็ง ก็เป็น ปัญจทวารมรณาสันนวิถี

ถ้าอารมณ์เมื่อใกล้ตายปรากฎทางใจ ก็เป็น มโนทวารมรณาสันนวิถี

ในขณะเมื่อใกล้ตายนั้น กำลังของหทัยวัตถุก็อ่อนลง จึงไม่มีกำลังสามรถจะบังคับอารมณ์ได้ อารมณ์ที่มาปรากฎจึงเป็นกรรมที่เคยทำมาแล้วในชาตินี้ หรือ ชาติก่อนมาแสดงให้ปรากฎ มี ๓ ลักษณะด้วยกัน คือ

ก . กรรมอารมณ์  ( อารมณ์คือกรรม ) คือความรู้สึกเดิมที่เคยทำทั้งที่เป็น กุศล และ อกุศล

กรรมอารมณ์ ที่เกี่ยวกับกุศลนั้น ได้แก่ การให้ทาน การรักษาศีล การฟังธรรม หรือการเจริญภาวนา ในสมัยเมื่อตนได้สร้างบุญกุศลเหล่านี้ มีปิติโสมนัสอย่างไร เมื่อจวนจะใกล้ตาย ก็จะเป็นเหตุให้นึกถึงบุญกุศลนั้น ทำให้มีปิติดโสมนัสเกิดขึ้นเหมือนที่เคยทำมานั้น คือมีจิตใจหน้าตาแช่มชื่นเบิกบานคล้ายกับว่าตนกำลังทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม หรือเจริญภาวนาอยู่ในขณะนั้น จึงมักตายจากไปอย่างสงบ ไม่หลงตาย

ส่วนกรรมอารมณ์ที่เป็นอกุศลนั้น คือ ตนเคยทำบาปอกุศลอย่างใดมา เช่น เคยฆ่าคน ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เคยถูกจองจำเพราะทำทุจริตหรือเคยโกรธแค้นพยาบาท เป็นต้น ก็ให้นึกบาปกรรมที่ตนเคยทำไว้ ทำให้มีความทุกข์ใจ มีความเศร้าหมอง หรือมีความโกรธขึ้น คล้าย ๆ กับว่าตนกำลังทำกรรมชั่วเหล่านั้น หรือกรรมเหล่านั้นกำลังเกิดขึ้นแก่ตนอยู่  ในขณะเมื่อจวนจะตายนั้น จึงมักตายจากไปอย่างกระสับกระส่าย หรือหลงตาย

กรรมารมณ์เป็นความรู้สึกทางใจ จึงปรากฏได้ทางใจหรือทางมโนทวารอย่างเดียว

ข . กรรมนิมิตอารมณ์ คือ นิมิต หรือเครื่องมืออุปกรณ์ในการทำกรรม หรือวัสดุ สิ่งก่อสร้างที่ตนเคยทำไว้แล้ว ทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ย่อมแสดงนิมิตเครื่องหมายออกมาให้ปรากฏเมื่อจวนจะตาย

ถ้าเป็นฝ่ายบุญกุศล ก็ทำให้รู้เห็นเครื่องหมาย แห่งบุญกุศลที่ตนเคยทำไว้ เช่น โบสถ์ วิหาร โรงเรียน โรงพยาบาลที่ตนเคยสร้าง เห็นภาพพระภิกษุที่ตนเคยบวช หรือบวชลูกหลาน เห็นพระพุทธรูปที่ตนเองเคยสร้าง เห็นขันข้าวหรือทัพพีที่ตนเคยตักบาตรเป็นต้น หรือภาพนิมิตแห่งกิริยาอาการที่ตนเคยทำบุญกุศลนั้น ๆ มาปรากฏแก่ตนในเมื่อเวลาจวนจะตาย เมื่อจิตได้หน่วงเอาภาพนิมิตนั้นมาเป็นอารมณ์ ให้เห็นเป็นนิมิตเครื่องหมาย หรืออุปกรณ์ในการทำบุญกุศลต่าง ๆ เหล่านั้นที่ตนเคยทำมาก็ย่อมนำไปเกิดในสุคติ เพราะมีจิตใจเบิกบานไม่เศร้าหมอง

แต่ถ้ากรรมนิมิตที่เป็นอกุศลกรรม เช่น เคยฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ มาปรากฏ ก็ทำให้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการทำกรรม เช่น เห็นหอก ดาบ อวน เห็น เครื่องประหารเบียดเบียนสัตว์ที่เคยใช้ในการทำบาปมาแล้ว บางคนทำให้สะดุ้งหวาดเสียว ร้องไห้เสียงลั่น คิดว่าจะมีคนทำร้ายตน บางคนถ้าเคยฆ่าหมู ก็ร้องเสียงเหมือนหมู ฆ่าวัวก็ร้องเสียงเหมือนวัว ถ้าเคยชนไก่ก็เอาหัวแม่มือทั้ง ๒ ของตนชนกันแล้วร้องเหมือนเสียงไก่ชน ถ้ากรรมนิมิตฝ่ายบาปอกุศลมาปรากฏเป็นอารมณ์เมื่อจวนตายเช่นนี้ ก็ย่อมนำไปเกิดในทุคติ

กรรมนิมิตทั้งฝ่ายกุศลและอกุศลดังกล่าวมาแล้ว ถ้าเป็นเพียงคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้วนั้น นิมิตนั้น ๆ จะปรากฏทางมโทวาร เป็นอดีตารมณ์ ( อารมณ์อดีต ) แต่ถ้าเห็นด้วยตาจริง ๆ ได้ยินด้วยหูจริง ๆ ได้กลิ่น รู้รส ถูกต้องสัมผัสทางกายจริง ๆ ก็เป็นนิมิตที่ปรากฏทางปัญจทวาร และเป็นอารมณ์ในทางปัจจุบัน

ค . คตินิมิตอารมณ์ คือ นิมิต หรือเครื่องหมายที่บ่งบอกให้ทราบถึงที่จะไปเกิดใหม่

ถ้าเป็นคตินิมิตที่จะนำไปสู่สุคติ ก็จะปรากฏเป็นปราสาท ราชวัง วิมาน ทิพยสมบัติ เทพบุตร เทพธิดา เห็นครรภ์มารดา เห็นวัดวาอาราม เห็นบ้านเรือนผู้คน หรือพระภิกษุสามเณร ซึ่งล้วนแต่เห็นสิ่งที่ดี ๆ

ถ้าเป็นคตินิมิต ที่จะนำไปสู่ทุกคติ  ถ้าจะไปเกิดในนรก ก็ปรากฏเห็นเป็นเปลวไฟนรก เห้นนายนิรยบาล เห็นสุนัข เห็นแร้ง กา เป็นต้น ที่กำลังจะเข้าทำร้ายตน  ถ้าต้องไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานก็จะเห็นเหว ถ้ำ ป่าทึบ หรือทุ่งหญ้า หนองน้ำ เป็นต้น ที่ตนจะต้องไปเกิด

คตินิมิต จะปรากฏได้ในทวาร ทั้ง ๖ แต่ที่ปรากฏส่วนมากทางจักษุทวารและมโนทวาร คือ เห็นทางตา และทางใจเป็นส่วนมาก และจัดเป็นอารมณ์ในปัจจุบัน

อารมณ์ของมรณาสันนวิถีนี้ ย่อมเป็นกรรมอารมณ์ กรรมนิมิตหรือคตินิมิต อย่างใดอย่างหนึ่ง มาปรากฏแก่วิถีจิตที่ใกล้ชิดกับจุติจิตที่สุด หรือจะเรียกว่า “ เป็นการฝันครั้งสุดท้ายในชีวิตก็ได้ ” ถ้าฝันไม่ดี คือเห็นอารมณ์นิมิตไม่ดี ก็ไปเกิดในทุคติ ถ้าฝันดี คือเห็นอารมณ์ที่ดีก็ไปเกิดในสุคติ





บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ เมษายน 18, 2024, 04:09:39 AM