ก็องค์พระ ทศพล ตรัสสอนว่า
เธอจงเร่ง เพียรหนา อย่าเนิ่นช้า
พึงระลึก ตรึกจิต ตรึงใจตรา
จักถึงครา เราร้างลา ขันธ์๕กัน
มีตะขาบ หรืองูเงี้ยว เขี้ยวขอกัด
มิอาจขัด ป้องปัด สิ้นชีพพลัน
อีกพลาดล้ม ลมพิษ พัดขึ้นผัน
อาหารนั้น กินไม่ย่อย ค่อยค่อยตาย
ทั้งเสมหะ และน้ำดี มีกำเริบ
ขาหักเงิบ ล้มหัวฟาด ชีพสลาย
หายใจอยู่ แค่ลมเข้า ต้องชีพวาย
เคี้ยวข้าวกลาย ติดคอหงาย ต้องตายแล
..............................................................................
มีคำสอน ให้พึงทำ หมั่นเพียรไว้
พึงตั้งใน สังวระ ปธานสี่
ทำพละ ห้าให้แจ้ง เต็มใจนี้
ยังผลให้ อินทรีย์ แกร่งกล้าไว้
เพียรในศีล ไม่นิ่งเฉย ผ่านเลยละ
ตั้งพละ ศรัทธาเพียร เคียงทานใฝ่
สติจะ สังขารตั้ง หมั่นทวนใช้
ภาวนา ให้จิตตั้ง มั่นใจเดียว
ก็จักเห็น ในธรรมเอก เอนกนัก
เกิดประจักษ์ เห็นธรรมะ จักษุเทียว
จิตหลุดออก จามสมมติ ที่คดเคี้ยว
มั่นใจเดียว พระนิพพาน กระจ่างใจ
..............................................................................
หมายเหตุ
มรณัสสติสูตรที่ ๑
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=22&A=7188&w=%C1%C3%B3%D1%CA%CA%B5%D4มรณัสสติสูตรที่ ๒
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=22&A=7255&w=%C1%C3%B3%D1%CA%CA%B5%D4
..........(สังวรปธาน ๔ หรือ สัมมัปปธาน ๔ หรือ ปธาน ๔ ความเพียร ๔ เพียรละ เพียรสร้าง เพียรเพิ่ม เพียรรักษาไม่ให้เสื่อม)http://www.84000.org/tipitaka/read/?21/13
..........(พละ ๕ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา อินทรีย์ คือ ความเป็นใหญ่ พละ คือ ความไม่หวั่นไหว อินทรีย์ 5)
ธรรม 5 อย่างนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อินทรีย์ 5 (ธรรมที่เป็นใหญ่ในกิจของตน — controlling faculty) ที่เรียกว่า อินทรีย์ เพราะความหมายว่า เป็นใหญ่ในการกระทำหน้าที่แต่ละอย่างๆ ของตน คือเป็นเจ้าการ ในการครอบงำเสียซึ่งความไร้ศรัทธา ความเกียจคร้าน ความประมาท ความฟุ้งซ่าน และความหลงตามลำดับ ที่เรียกว่า พละ เพราะความหมายว่า เป็นพลังทำให้เกิดความมั่นคง ซึ่งความไร้ศรัทธาเป็นต้น แต่ละอย่าง จะเข้าครอบงำไม่ได้
พละหมวดนี้เป็นหลักปฏิบัติทางจิตใจ ให้ถึงความหลุดพ้นโดยตรง
http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%BE%C5%D0+%F5&original=1