เมษายน 19, 2024, 08:40:09 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เกิดเป็นมนุษย์นี้ยาก (พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร)  (อ่าน 4745 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 08:44:37 AM »

Permalink: เกิดเป็นมนุษย์นี้ยาก (พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร)
เกิดเป็นมนุษย์นี้ยาก (พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร)


การเกิดเป็นมนุษย์นี้ ท่านว่ายากเย็นเหลือเกิน เหมือนกับ เต่าตนุตาบอดซึ่งจมอยู่ในท้องมหาสมุทร กว่าจะโผล่ขึ้นมาจากท้องมหาสมุทรนั้นมันแสนยากทั้งตาบอดเสียด้วย ไม่ทราบว่ากิ่งไม้หรือต้นขอนต่างๆ มันอยู่ที่ไหน เมื่อโผล่ขึ้นมาได้ ทั้งได้เกาะได้อาศัยไม้นับเป็นโชคลาภ

การเกิดเป็นมนุษย์นี้ยากแสนยากลำบากเหลือเกินเพราะกว่าจะเกิดได้ ภพชาติอื่นๆ มันมีมาก สัตว์น้ำก็นับอย่างไม่ได้ สัตว์ก็นับอย่างไม่ได้และเกิดง่ายสะดวกสบาย ไม่เหมือนมนุษย์เรา

มนุษย์จึงเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ไม่ใช่สัตว์ธรรมดา เหตุใดจึงว่าประเสริฐ

พระพุทธเจ้าหรือเหล่าพระอรหันต์ปัจเจกพุทธเจ้าก็เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งนั้น ไม่ใช่เกิดเป็นอันอื่น ฉะนั้นจึงเรียกว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ควรชำระจิตใจของตัวให้ประเสริฐ ตามเยี่ยงอย่างที่พระพุทธเจ้าของเรา เคยกระทำบำเพ็ญมา ไมอย่างนั้นการเกิดของเราก็จะเป็นหมัน เป็นโมฆะ หาสาระอะไรไม่ได้

สัตว์เขาเกิดเขาตายเหมือนกับเรา แต่เขาไม่ประเสริฐก็เพราะเขาไม่ได้คิดในทางดีของเขา ตื่นมาก็หากิน อิ่มแล้วก็หลับนอน นี่เรื่องของสัตว์

ไม่ว่าสัตว์บ้าน สัตว์ป่าเป็นอย่างนั้น จะจำศีลอย่างไร จะภาวนาอย่างไร จิตใจของสัตว์ไม่เคยนึกคิดเรื่องเหล่านี้

แต่มนุษย์เราคนที่ประมาทเมินเฉย ก็ทำนองเดียวกับสัตว์ เพียงแต่กินแต่อยู่เท่านั้น ไม่ได้คิดกำจัดกิเลสตัณหา มานะ ทิฐิละชั่ว บำเพ็ญดี มีแต่แสวงหามาใส่ปากใส่ท้องของตัว แล้วก็หลับนอน ก็เพลิดเพลินกันไปตามเรื่องของกิเลสตัณหา

ไม่ได้คิดว่าการเกิดของตัวมันยากมันลำบาก กว่าจะได้เกิดแต่ละครั้งแต่ละหน เมื่อไม่คิดอย่างนี้ การสะสมคุณงามความดีอะไรมันก็ไม่อยากกระทำบำเพ็ญ เพราะเห็นว่าการเกิดไม่ยุ่งยากลำบากอะไร เพราะไม่ได้คิดถึงเหตุผลต้นปลายอะไร เพียงเกิดได้ก็ว่าตัวเกิด ตัวดีเท่านั้น ผลที่สุดตายไป

เมื่อไมได้ทำบุญสุนทาน เมื่อไมได้สร้างคุณงามความดีอะไรไว้ จิตใจเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา เต็มไปด้วยมานะทิฐิต่างๆ ไม่มีบุญกุศลส่วนใดที่จะสนับสนุนให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทพบุตร เทพธิดาหรืออินทร์พรหมได้

มันก็ไปสู่อบาย คือทางชั่วทางเสีย อบายนั้นพวกเราท่านก็ได้ยินแต่ในตำรับตำราว่า มันทุกข์ มันยาก มันลำบาก มันรำคาญขนาดไหน อบายนั้นไม่ได้หมายถึงนรกถ่ายเดียว เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานก็หมายถึงอบายด้วย
 
 
ธรรมจักร
 
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ เมษายน 08, 2020, 11:42:47 AM