เมษายน 19, 2024, 10:36:56 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กิเลสบังทุกข์  (อ่าน 7113 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: สิงหาคม 20, 2010, 11:55:45 PM »

Permalink: กิเลสบังทุกข์
กิเลสบังทุกข์ 
 
 ทุกข์มีอยู่ทุกที่ทุกเวลา มองเราดูมันเราจะเห็น มันน่าดูกว่าผี เห็นง่ายกว่าผี แปลกกว่าผี มันอำเราตลอดเวลา แต่เราดูมันไม่ทุกเวลา แต่มันก็มาให้เราเห็นเองบางเวลา

มีคำที่เป็นจริงที่สุดพระพุทธเจ้าบอกไว้แต่เราชอบเถียง ท่านบอกว่า

"ไม่อะไรเกิดนอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับนอกจากทุกข์" สรุปโลกนี้ไม่มีอะไรนอกจากทุกข์ เราก็เถียงอย่างมีเหตุผลว่า"ก็บางครั้งฉันก็สุข จะมีแต่ทุกข์อย่างไรได้"

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนธรรมที่ผิด มันมีแต่ทุกข์จริงๆ มีทุกที่ทุกเวลา แต่เราไม่มองมันทุกเวลา เช่นเมื่อเราเงินหมดเราจะเห็นมัน เราบาดเจ็บ เราไม่สบายกายสบายใจเราถึงจะเห็นมัน

เมื่อให้ยกตัวอย่างทุกข์ที่ใกล้ตัวที่สุดส่วนมากจะบอกว่า "เมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ" นั่นยังไกลมามากนะ

ทุกที่แท้มันอยู่กับเราตลอดเวลาไม่เลือกว่าจะต้องรอว่าเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการถึงจะทุกข์ไม่ใช่ มันมีตลอดแต่มันถูกบังคือ "กิเลสบังทุกข์" ไอ้นี่มันก็บังตลอดเราเลยไม่เห็นทุกข์

อ้าวแล้วทำไมเราถึงยังทุกข์ล่ะ ก็ตอนนั้นเรามองทุกข์เพราะอาจเป็นทุกข์ใหญ่ หรือเรามีสติมีสมาธิจดจ่อ มองไปเจอทุกข์

ข้อพิสูจน์ ว่าทุกข์มีตลอดเวลาแตกิเลสบัง

ทุกข์มีทั้งขณะนั่งขณะนอน ยืน ว่ายน้ำ กินข้าวมีหมด

เวลานอน เราทุกข์เพราะปวดเมื่อย กิเลสก็จะบังด้วยการพลิกตัว เรายืนทุกข์คือเมื่อยกิเลสก็บังด้วยการย่อนขาหรือนั่ง นั่งทุกข์เพราะเมื่อยกิเลสก็บังด้วยการขยับตัว เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าเราแทบไม่ทุกข์หรือไม่เห็นทุกข์เลยเพราะกิเลสมันบัง แต่ ลองเรายืนในที่ที่นั่งไม่ได้ย่อนขาไม่ได้สิ เช่นทหาร หรือในห้องประชุมที่ต้องนั่งนานๆทั้งที่อยากนอนเต็มแก่ หรือนั่งสมาธิโดยอธิษฐานว่าจะพิจารนากายไม่ลุกไปไหนสักชั่วโมง เป็นต้น อันนี้กิเลสจะบังไม่ได้มันอยากบังแต่บังไม่ได้เราจะเห็นทุกข์ได้ชัดเพราะไม่มีกิเลสบัง

หรือในการนั่งสมาธิที่มุ่งแค่สงบ พอนั่งไปถึงขั้นมันว่างมันสุขแล้ว อันนี้ก็บัง ยิ่งแย่ไม่ใช่แค่บัง บางคนยังหลงยึดติด

พอมาทีหลังก็มานั่งอยากว่างอยากสุขแบบเดิมแต่มันไม่ได้มันยึดติด บางท่านเป็นบ้า บางคนทุกข์หนักอยากได้อยากเป็นอยากสุขอยากว่าง บางคนพอสงบหน่อยคิดว่าเป็นอรหันต์ไป

ครูสายวัดป่า (หลวงปู่มั่น) ท่านให้พิจารณาหาใช่แคเอากิเลสมาบังทกข์แค่ให้สงบไปวันๆ

ธรรมแท้ไม่รู้อะไรไม่ได้ หลักธรรมสูงสุดของพระพุทธศาสนาไม่ใช่ไหว้พระขอพรให้มีแต่ความสุข แต่คืออริยสัจ เห็นทุกข์ รู้จักทุกข์ เข้าใจทุกข์ ดับทุกข์



ขอบคุณบทความจาก dhammajak
 
 
 




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ มีนาคม 20, 2024, 03:51:13 PM