เมษายน 24, 2024, 05:07:32 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน  (อ่าน 9127 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กหน้าวัด
เด็กใหม่
นักบุญผู้ใจดี
*****

พลังความดี : 696


เพศ: ชาย
กระทู้: 13280
สมาชิก ID: 1


« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2010, 05:38:24 PM »

Permalink: ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน
“..ฉันหวง ฉันมาทวงของฉันคืน…”

เสียงเพลงยอดนิยมของนักร้องหญิงผู้หนึ่งดังขึ้น ขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่บนรถโดยสาร..

มันทำให้ฉันสะดุดและเงี่ยหูฟังต่อไป...

“ ฉันไม่เคยแย่งของคนอื่น..ผู้หญิงเจ้าชู้ เมื่อรู้อย่าฝืน ช่วยอายสักหน่อยไหม...”


ฉันตั้งใจฟังต่อไปจนเพลงจบลง.. บทเพลงๆนี้ กำลังให้อะไรดีๆกับฉันอีกแล้ว

คงมีใครหลายคน ที่ชื่นชอบในบทฟังเพลง
ไม่ว่าจะเป็นเพลงประเภทใดก็ตาม ..
แต่นอกจากจะฟังเพื่อความบันเทิงหรือสนองอารมณ์ที่ตรงกับตนเองในช่วงนั้นๆแล้ว
เคยนำบทเพลงเหล่านั้นมาคิดพิจารณาถึงความเป็นจริงของชีวิตและสอนใจตัวเองบ้างไหม..

เช่นบทเพลงๆนี้..
“ ..ฉันหวง ..ฉันมาทวงของฉันคืน...”
ผู้หญิงคนนี้กำลังทวงอะไร และอะไรกันนะ ที่เป็นของๆเธอ..

ลองคิดดูดีๆสิ ว่าเรามีอะไรที่เป็นของเราจริงๆบ้าง
อย่าปล่อยให้เนื้อเพลงที่ลอยผ่านหูเรามา ทำให้ใจเรายึดติดว่า..ของนั้นๆ เป็นของเราจริงๆ
เราเกิดมามีอะไรติดตัวมาบ้าง มีสร้อย มีแหวนเพชร มีโฉนดที่ดิน หรือมีคนรักติดตัวมาด้วยหรือ
จึงจะต้องมาทวงคืน

เราเกิดมาไม่ได้มีอะไรติดตัวมาด้วยเลย..
นอกจากอริยทรัพย์และบุญวาสนาที่เคยได้ทำมาแล้ว
ทุกสิ่งที่เรามีในตอนนี้..
ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ แก้วแหวน เงินทอง..
หรือแม้กระทั่งคนรัก
เราได้มาในภายหลังทั้งสิ้น...ซึ่งถือว่าเป็นกำไรชีวิต
ทุกคนเริ่มต้นชีวิตที่ศูนย์เท่ากัน
สิ่งที่หามาได้ทุกอย่างถือเป็นกำไร..เพราะ ไม่ใช่ของๆเราจริงๆ
แม้แต่ตัวเราเอง...เลือดเนื้อที่มีอยู่นี้ ใครสร้างมา
เราสร้างมันมาเองได้หรือ...และมันใช่ตัวเรา ของเราหรือเปล่า

กลับมาที่บทเพลงๆเดิมนี้...
หากตั้งใจฟังดีๆแล้วนำมาเป็นบทเรียนสอนใจ
ไม่ปล่อยให้มันมาปลุกเร้าอารมณ์ อยากทำในสิ่งที่ไม่สมควร
แต่ให้มองในมุมที่สอนให้เรารู้ว่า...
ไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลยจริงๆ.. และเราก็ไม่ควรจะยึดติด
หากมีใครมาแย่งคนรักไป
ก็ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น และเราเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทวงอะไรคืน
แต่ให้เข้าใจว่า..
นี่แหละคือธรรมชาติ เป็นธรรมะที่วิเศษที่สุด ซึ่งสอนให้เราเข้าใจถึงความไม่ถาวร
หากสิ่งที่เคยมีอยู่ กลับจะต้องจากลากันไป...
ก็เป็นความจริงอยู่แล้ว.. เพราะทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงเสมอ

แล้วเราล่ะ.. กำลังฝืนความจริงของธรรมชาติอยู่รึเปล่า


ต่อจากนี้ไป หากฟังเพลง...
ก็อย่าปล่อยให้บทเพลงนั้นผ่านเข้ามากระทบหู แล้วผ่านเลยไปอย่างไร้ประโยชน์...
พยายามเก็บเล็ก ผสมน้อย ฝึกคิดพิจารณา และรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ชีวิตนี้จะมีความหมายขึ้นมาก...
และความทุกข์ก็จะน้อยลงมากเช่นกัน

ที่มา : ประสบการณ์ส่วนตัว



ขอบคุณบทความจาก ธรรมะไทย




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters
Powered by SMF 1.1.17 | Simple Machines|Copyright © 20010 BY : thammaonline.com
บทความธรรมะรวมเรื่องกฏแห่งกรรมสมาธิ วิปัสนากรรมฐานพลังจิตกระดานถาม-ตอบ Sitemap

Google มาเยี่ยมเว็บเมื่อ เมษายน 07, 2024, 10:38:03 PM