หัวข้อ: เอาให้และ ให้เอา เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ กันยายน 12, 2010, 05:47:50 PM เอาให้และ ให้เอา ถ้าเราเป็นผู้ให้ ก็จะมีผู้มาให้ “ ผู้ให้ ” คนที่มาก็จะมาให้ ใคร ๆ ที่มาก็มีแต่จะมาให้ มีแต่จะเอามาให้ เพราะเห็นเราเป็นผู้ให้จึงทนไม่ได้ที่จะไม่ให้ ทนนิ่งดูดายไม่ได้ จะต้องมาให้ “ ผู้ให้ ” ให้ได้ จะเอามาให้ให้ได้ แต่ถ้าเราเป็นผู้เอา ก็จะมีมาเอาจาก “ ผู้เอา ” ถ้าเรามีแต่จะเอา ก็จะมีแต่ผู้ที่จะมาเอาจากผู้เอา คนที่มาก็คือจะมาเอก ใคร ๆ ที่มาก็คือผู้ที่จะมาเอา แถมเป็นการจะเอาให้ได้อีกด้วย จะต้องเอาให้ได้ ไม่ได้ไม่ยอม เพราะเห็นเราเอานั่นเอง จึงทนไม่ได้เหมือนกันที่จะมาเอา ทนนิ่งดูดายไม่ได้ จะต้องมาเอาให้ได้ มาเอากับผู้เอาให้ได้ ดังนั้นการ “ ให้ ” นี่แหละจึงเป็นการได้มาอย่างแท้จริง และการ “ เอา ” ก็เป็นการสูญเสียอย่างถาวรด้วย ฉะนั้น...เราจะเอาหรือเราจะให้? หรือเราจะทำทั้งสองอย่าง..คือเอาให้และให้เอา ถ้าได้ก็เอา เมื่อมีผู้ให้ก็เอา ถ้าจะต้องได้อะไรและอะไรก็ “ เอา ” ยอมรับที่จะรับเอา ไม่ทำทีเป็นเสแสร้งแกล้งปฏิเสธแบบว่า “ ปากว่า ตาขยิบ ” โดยความจริงนั้น เมื่อถึงคราวที่จะต้องได้อะไรก็ต้องได้ ควรที่จะได้รับอะไรก็ต้องได้รับ ส่วนการจะรับได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวของผู้รับเอง เขาก็ทำหน้าที่เพียงเอาผลมาส่งเท่านั้น เขามีหน้าที่เพียงส่งผล คือเอาผลมาส่งให้เท่านั้น เขาก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาทำให้ผู้รับเป็นหรือไม่เป็นอะไร การที่ผู้รับเป็นหรือไม่เป็นอะไรนั้น ผู้รับนั่นแหละเป็นเอง เหตุดังนั้น...เมื่อถึงวาระที่จะได้รับอะไรและอะไรก็พึงรับเถิด พึงรับมาเถิด และเมื่อรับมาแล้วหรือเมื่อเอามาแล้วก็ควรเอามาให้ คือเอามาเพื่อการเอามาให้ ไม่ได้เป็นการเอามาเพื่อการ “ เอา ” เป็นการได้มาเพื่อที่จะได้มาให้ หรือรับมาเพื่อที่จะได้มีให้ เพราะถ้าอะไร ๆ ไม่มีแล้วจะให้อะไรและอะไรได้อย่างไร? เมื่อไม่มีก็ให้ไม่ได้ อยากจะให้ก็มีแต่ความอยาก แต่ให้ไม่ได้ อยากจะมีให้ก็ให้ไม่ได้ อยากจะให้ก็มีแต่ความอยาก แต่ให้ไม่ได้ ดังนั้นเอามาเถิด...รับมาเถิด..จะได้มีเพื่อการให้ จะได้ได้ให้ และเมื่อให้แล้วก็ชื่อว่าได้ให้ ได้รับการ “ ได้ให้ ” เป็นผล ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการได้ให้ ชื่อว่าจบแล้ว ได้รับผลเรียบร้อยแล้ว ท่านที่รักทั้งหลาย...ให้โอกาสแก่ตัวเองในการเป็นผู้ให้บ้าง ให้โอกาสกับตัวเองในการที่จะได้ให้บ้าง ให้ได้มีโอกาส “ ได้ให้ ” บ้าง เมื่อให้โอกาสตัวเองได้ให้ นั่นแหละคือการให้ “ ตัวเอง ” เป็นการให้ “ ตัวเอง ” ได้ให้ “ ตัวเอง ” ไม่ใช่ให้คนอื่นให้ตัวเอง ไม่รอให้ใครให้ ไม่รอการให้จากใคร ไฉน...ไยต้องไปรอที่จะให้ใครให้ด้วย อย่าไปรอให้ใครให้เลย เพราะถ้าต้องรอให้ใครให้แล้วเมื่อไรจะได้ โอกาสแห่งการให้โอกาสกับตัวเองได้มาถึงแล้ว วันคืนล่วงไป...ล่วงไป บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ กำลังรออะไรอยู่กระนั้นหรือ? เหตุสมควรรออะไรและอะไร หรืออะไร ๆ ไม่มีในโลก ขอบคุณลานธรรมจักร |