หัวข้อ: ทุกข์...เป็นสิ่งวางได้ เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ สิงหาคม 27, 2010, 01:30:01 PM ทุกข์...เป็นสิ่งวางได้ ที่จริงต้องมีคนเป็นจำนวนไม่น้อยในขณะนี้ที่กำลังได้รับทุกข์ อยู่ เพราะความเสื่อมลาภ เพียงแต่จะเป็นทุกข์หนักหรือทุกข์ น้อยแตกต่างกันเท่านั้น และประมาณของความทุกข์จะแตก ต่างกันก็เพราะเหตุสำคัญ 2 ประการ.... ประการ1.คือ ความเสื่อมลาภนั้นมากน้อยต่างกัน ประการ2.คือ ความมีปัญญารู้เท่าทันไม่เสมอกัน อย่างไรก็ตาม แม้ความทุกข์จากการเสื่อมลาภจะเกิดขึ้นแล้ว ก็ตาม มากหรือน้อยก็ตาม วิธีบรรเทาทุกข์หรือทำให้ทุกข์สิ้นไป ที่จะใช้ได้ผลแน่นอน วิธีหนึ่งก็คือ.... วิธีคิดถึงความจริงว่า ความเสื่อมลาภเป็นธรรมประจำโลก เราอยู่ในโลกก็ต้องพบ อยากพบหรือไม่อยากพบก็ต้องพบ การต้องประสบโลกธรรมนั้นเป็นธรรมดา หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การปล่อยใจให้เป็นทุกข์ต่างหากเป็นของไม่สมควร เป็นสิ่ง หลีกเลี่ยงได้ และเป็นสิ่งควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งด้วยกันทุกคน ไม่ควรมีใครสักคนเดียวที่ยอมปล่อยใจให้เป็นทุกข์ ควรแก้ไข ผ่อนหนักให้เป็นเบา ทำน้อยให้หมดสิ้นให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด การแก้ไขนี้ก็มิใช่ว่าจะแก้ไขให้ความเสื่อมลาภกลับกลายเป็น ความได้ลาภขึ้นมาให้ได้โดยเร็ว ความทุกข์จะได้สิ้นสุดไปพร้อม กับที่ความได้ลาภมาถึง การแก้ทุกข์ไม่ใช่อยู่ที่วิธีนี้เป็นสำคัญ การพยายามทำมาหากินเพื่อให้กลับเกิดมีทรัพย์สินเงินทองขึ้น โดยชอบธรรมนั้น เป็นการดีสมควรกระทำด้วยกันทุกคนในขณะ ที่ยังอยู่ในเพศของผู้ครองเรือน มิใช่อยู่ในเพศของนักบวชหรือ สมณะ และการกลับถึงการความได้ลาภ พ้นจากความเสื่อมลาภ แม้จะเป็นเหตุให้สิ้นทุกข์ใจอันเนื่องจากความเสื่อมลาภก็จริง แต่การแก้ด้วยวิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการบริหารจิต เป็นการแก้ที่จะไม่ให้ผลเป็นความสิ้นทุกข์ใจ ยั่งยืนเพราะจะไม่มี ปัญญาเห็นจริงเป็นพื้นฐานของจิตใจ การแก้ที่เป็นการบริหารจิต ต้องเป็นการแก้ที่ประกอบด้วยเหตุผล พิจารณาเหตุผลจนใจยอมรับ ยอมวางทุกข์ จึงจะได้รับผลยั่งยืน แม้จะต้องประสบความเสื่อม ลาภอีกต่อไปสักกี่ครั้งกี่หน ก็จะมีเหตุผลมาบรรเทาหรือดับความ ทุกข์เสียได้โดยควร... เมื่อประสบความเสื่อมลาภจนเกิดทุกข์ ต้องเป็นทุกข์อยู่ คิดเสีย ให้กลับกันกับที่เราเคยคิดไว้ล่วงหน้า วาามีลาภก็ต้องมีเสื่อมลาภ คู่กันเป็นธรรมดา คิดเสียให้กลับกันก็คิดว่ามีเสื่อมลาภแล้วก็จะต้อง มีลาภคู่กันเป็นธรรมดา ความเสื่อมลาภก็เป็นสิ่งไม่เที่ยงเช่นเดียว กับความได้ลาภ ย่อมแปรปรวนเปลี่ยนแปลง ไม่อาจทนอยู่เช่นเดิม ได้ตลอดกาล ทั้งยังจักไม่เป็นไปตามความปรารถนาต้องการ ไม่ว่าใครจะปรารถนาต้องการให้ความเสื่อมลาภหมดสิ้นไปรวดเร็ว เพียงใด ก็ไม่มีที่จะเป็นไปได้ตามความปรารถนาต้องการ ความได้ ลาภอาจจะเกิดขึ้นก่อนความปรารถนาต้องการก็ได้เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใด อาจกำหนดให้แน่นอนถูกต้องได้... เพราะฉะนั้น ความเศร้าเสียดายทุกข์ร้อนก็ไม่อาจทำให้อะไรเป็นไป ตามความปรารถนาได้ ตรงกันข้าม อาจจะเป็นเหตุให้ความมีลาภ มาถึงช้ากว่าควรได้ เพราะเมื่อใจเป็นทุกข์ กาลเวลาก็เหมือนเนิ่นช้า กว่าธรรมดา ความมีลาภหรือความสิ้นสุดความเสื่อมลาภ จึงต้อง พลอยเหมือนเนิ่นช้าตามกาลเวลาไปด้วย ทำใจให้สบาย อย่าทุกข์ ร้อน แล้วเวลาจะเหมือนอย่างที่กล่าวกันว่าติดปีก คือเวลาจะล่วงไป อย่างรวดเร็ว สิ่งที่ปรารถนาต้องการก็มาถึงเร็ว. ผู้ที่ต้องการความสุข ความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางกายและทางใจจึงจำเป็นต้องมีสติอยู่เสมอ เชื่อให้มั่นว่าการไม่คิดให้เป็นทุกข์จะทำให้เหตุแห่งความทุกข์ทั้งหลาย ทั้งที่เกี่ยวกับทางกายและทั้งที่เกี่ยวกับทางใจ ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และ จะทำให้เหตุแห่งความสุขทั้งหลาย ทั้งที่เกี่ยวกับทางกายและทั้งที่เกี่ยว กับใจ ผ่านมาถึงเร็วเข้าอย่างแน่นอน...ฯ 31 มีนาคม 2517 ~พระนิพนธ์.......สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก~ ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ |