สนทนาธรรม ฟังธรรม อ่านธรรมะ บทความธรรมะ หลักธรรมคำสอน กฎแห่งกรรม dhamma

ธรรมะออนไลน์ => บทความธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: ประวิต ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2013, 08:39:15 PM



หัวข้อ: ธรรมของโลกใบใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2013, 08:39:15 PM
 :) :) โลกของความศีวิไล  ในอะไรหลายๆอย่าง และเกือบทุกๆอย่าง  แม้กระทั้งแนวความคิดที่เป็นทิฎฐิในธรรมทั้งปวง  มันเป็นของศีวิไล  ในความคิด  แต่ด้อยเรื่องการกระทำ....................................................................ประวิต....


หัวข้อ: ธรรมของโลกใบใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มีนาคม 09, 2013, 09:26:07 PM
เขียนเรื่องหนักหัวสมองมากก็น่าเบื่อสำหรับสังคมมนุษย์ทุกวันนี้....พูดกับเด็กบ้างวัยรุ่นบ้าง  แม้แต่ผู้มีอายุก็เหอะ  พูดถึงวัดเขาก็เบื่อวัดเบื่อศาสนากันเต็มทน  แถมเขาถกเราอีก  เขามองว่าการปฎิบัติธรรมนั้นต้องเข้าวัด  ถือศีล  นุ่งขาวห่มขาว  มันช่างไม่สอดคล้องกับโลกที่กำลังวิวัฒนาการเลย  ทุกตนก็เบื่อพูดคุยเรื่องธรรมมะกันหมดเลย  ครั้นชาวธรรมพอพูดคุยก็ถกเถียงกันเรื่องแนวทางของการปฎิบัติ  ทางของเธอถูก  ทางของฉันผิด  ทางของเธอไม่เคร่งทางของฉันเคร่งกว่า  ทุกวันนี้ทางของโลกกับทางของธรรมแทบจะไปด้วยกันไม่ได้เลย  ต้องแยกทางกันเดิน  พอพูดถึงเรื่องโลก  ก็ต้องพูดว่า  สาวคนไหนสวย หนังเรื่องไหนดี ดาราคนไหนหน้ารัก รถคันไหนดีกว่ากัน บ้านหลังไหนจะหะหรูหะหรามากกว่ากัน  หรือโทรศัพท์เครื่องไหนจะใช้3Gไวไฟ  มีไวเล็ท  แต่มันก็เป็นเรื่องปรกติของชาวโลกนะครับ  แต่ชาวธรรมซิก็เป็นเอากับเขาด้วย  พอคุยเรื่องธรรมก็แบ่งครูบาอาจารย์กันแล้ว โดยที่ไม่ใคร่ครวญ  พอบอกทางบุญก้อ้างแต่สวรรค์.....โลกเปลี่ยน วันเวลาเปลี่ยน คำแปลก็เปลี่ยน ใจคนเราก็เปลี่ยนไปตามสถานะภาพแวดล้อม...ทางคู่ขนานของธรรมกับโลกที่ไปกันได้  ทำไมไม่ใช้ธรรมมะแบบมุมมอง (การที่เราเข้าใจอย่างแท้จริงในชีวิตตามธรรมชาติ  แม้จะไม่รู้ธรรมมะเลย  มันก็คือธรรมที่แท้จริง )  จะมีชีวิตอยู่อย่างไร  สถานภาพแบบไหน  การงานอย่างไรก็ใช้ได้  ถ้าธรรมมะเป็นอย่างนี้มันคงไม่หน้าเบื่อ  เด็กก็ทำผู้ใหญ่ก็ปฎิบัติ  ไม่ต้องคิดว่าพอพูดถึงเรื่องธรรมมะต้องแบ่งออกเป็นสองทางเดิน  หรือปฎิบัติธรรม  ตามแนวทางอาจารย์สอนแล้วมันขัดต่อหลักการในชีวิตของการทำงาน  มัวแต่กำหนด  สมองก็ไม่แล่นในสายงาน  เจ้านายก็บ่นว่าปึก  เพราะเอาแต่กำหนด  ถ้าไม่กำหนดมันก็ลืมจริงมัยครับ  ถ้าเรามีสติในกายยาววาหนาคืบอยู่  กำหนดอยู่กับสิ่งที่เราสำผัสในปัจุบัน  สมองของท่านก็จะไม่ทำงานในงาน  มันจะทึนทึกอยู่อย่างนั้น  หรืทำมากๆท่านก็จะอยากออกบวชซะเป็นงั้นไป  ไม่สอดคล้องกับโลกใบใหม่ของคนสู้ชีวิตเลย  ทำงานไปด้วย  ปฏิบัติธรรมไปด้วย  แค่ถนอมในมุมมอง  สมองก็แล่นในงาน  เพราะงานมันก็เป็นธรรมชาติชนิดหนึ่งของกฎกติกาในสมมุติฐานทั้งปวง  ใช้สมองคิดๆๆๆๆในงาน  แต่เราก็สามรถหยุดมันได้  โดยที่มีมุมมองที่รู้จริง  มันจะไม่เป็นประโยน์ในชีวิตมากกว่าหรือครับท่าน  แค่ทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งในชีวิตที่แท้จริงเหอะ  ทางออกทั้งหลายท่านก็จะเจอมันแล้ว  ไม่ต้องฆ่ากันแค่ผัวบอกเลิกเมียๆบอกเลิกผัว  ไม่ต้องทำร้ายตัวเองโดยการฆ่าตัวตาย  ไม่ต้องเสียใจเมื่อเงินเดือนไม่ขึ้น ตำแหน่งไม่เจริญก้าวหน้า  ทุกอย่างจะหยุดได้เพียงแค่มุมมองที่เปลี่ยนไป  ในการที่เราเข้าใจในชีวิตที่แท้จริงอยางซาบซึ่่งตามธรรมชาติ...ด้วยวงจรของปฎิจสมุปบาท...ธรรมจะคู่ขนานกับโลก..ทุกอย่างจะไม่หน้าเบื่อ และแล่นไปบนเส้นทางๆแห่งชีวิตได้โดยสวัสดี....เหนื่อยเราก็พัก...หายเหนื่อยเราก็เดินต่อ....สัมมาทิฎฐิ....

บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters