หัวข้อ: สุข-ทุกข์..ในมือเรา เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ สิงหาคม 30, 2010, 01:23:59 PM สุข-ทุกข์..ในมือเรา อย่าลืมว่าชีวิตจะสุข หรือทุกข์นั้น อยู่ที่เราเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพราะคนอื่น หรือเหตุอื่น... ชีวิตไม่อาจเป็นไปดังหวังได้หมด เปรียบไปก็ไม่ต่างกับเกมกีฬาที่ต้องมีแพ้ชนะ ใครที่หวังชัยชนะไปเสียทุกครั้ง ก็เตรียมตัวทุกข์ใจไว้ได้เลย พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่า..ให้เตรียมตัวเป็นผู้แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง หามิได้ ใครที่คิดเช่นนั้นก็คงงอมืองอเท้าตั้งแต่แรก ................... คนเราควรพากเพียรอย่างเต็มที่ แต่ใครเล่าที่จะกำหนดผลสำเร็จไปได้หมด คนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ต้องรู้จักแพ้ให้เป็น ฉันใด ในยามที่ชีวิตตกต่ำ บัณฑิตพึงรู้จักทำใจให้เป็นฉันนั้น แต่คนเรามักทำใจไม่ได้ เพราะคอยหวนคะนึงถึงวันคืนอันชื่นบาน สมัยยังมั่งมีศรีสุข หรือยังมีหน้ามีตา แต่อดีตมีไว้เพื่อเป็นฐานหนุนส่งให้เกิดปัจจุบัน เพื่อก้าวไปสู่อนาคต ใครที่เอาอดีตมาเหนี่ยวรั้งตนไว้ไม่ให้ไปข้างหน้า ก็เท่ากับเป็นนักโทษในกรงขังของตัวเอง ................... ชีวิตนั้นให้รางวัลก็แต่ผู้ที่อยู่กับปัจจุบัน เพราะปัจจุบันเท่านั้นที่เป็นของจริง จริงอยู่ บ่อยครั้งที่ปัจจุบันมีแต่เรื่องระทมทุกข์ อดีตนั้นน่าพิสมัยมากกว่า แต่ถ้าเราจะหวนไปหาอดีตบ้างก็ควรเป็นชั่วครู่ชั่วขณะ เพื่อชุบชูจิตใจให้ชื่นบานจะได้มีกำลังมาฟันฝ่าชีวิตในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าชีวิตจะสุขหรือทุกข์นั้นอยู่ที่เราเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพราะคนอื่นหรือเหตุอื่น เช่นเดียวกับความจน และความรวยนั้น อยู่ที่มุมมองของเรา .................. คนไทยเป็นอันมากกำลังทุกข์ เพราะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองยากจนลง ตราบใดที่ยังจมอยู่กับความคิดแบบนี้ก็ไม่มีวันคลายทุกข์ไปได้ แต่เราลืมไปแล้วหรือว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของเราตอนนี้ ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าบางช่วงในอดีต ลองมองไปรอบตัว จะพบว่าข้าวของในบ้านหลายชิ้น เคยเป็นของสุดเอื้อม สมัยเรายังเด็ก หรือเป็นหนุ่มเป็นสาว รถยนต์ แก้วแหวนเงินทอง วีดีโอ สเตอริโอ ซีดี ฯลฯ มองในแง่นี้เราไม่ได้จนลงแต่รวยขึ้นต่างหาก ยิ่งถ้าเปรียบกับคนอีกมากมายตอนนี้ ไม่ว่าจะมองลงไปข้างล่างหรือมองขึ้นข้างบน เราก็ยังสบายกว่ามาก ............................ คนที่ถูกยึดรถไป สมควรแล้วที่จะคิดว่าตัวเองโชคดีกว่าคนที่กิจการล้มละลาย ส่วนคนที่กิจการล้มละลาย ก็ยังโชคดีกว่านักธุรกิจพันล้านที่มีหนี้ท่วมหัว แต่ถึงจะเป็นหนี้เป็นสินมากแค่ไหน เราก็ยังมีสิทธิเลือกได้ว่าตัวเองจะทุกข์ หรือไม่ทุกข์ เพราะถึงที่สุด สุขหรือทุกข์ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทรัพย์ หรือหนี้สิน หากอยู่ที่ใจของเรา ถ้าเราคิดอยู่ตลอดเวลาว่าตัวแย่แล้ว ๆ นรกก็เกิดขึ้นทันตาเห็น เรามีสิทธิที่จะคิดว่าตัวเองไม่แย่ แต่สิทธินี้เราจะใช้หรือไม่อยู่ที่ใคร... ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง กระนั้นก็ตาม นอกจากวิธีคิดหรือมุมมองแล้ว คุณภาพจิตของเราก็สำคัญ ถ้าเราเป็นคนรู้จักสันโดษ ยินดีในสิ่งที่ตัวเองได้มาหรือมีอยู่ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อ รู้จักแสวงหาความสงบในจิตใจ วิกฤตของสังคมหรือวิกฤตการณ์อื่น ๆ ของชีวิตที่กำลังเผชิญอยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัย ที่จะฟันฝ่าไปได้ จาก ร่มไม้และเรือนใจ โดย พระไพศาล วิสาโล ที่มา...บ้านใส่ใจ |