หัวข้อ: ความพอดี...(หลวงพ่อชา สุภัทโท) เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ สิงหาคม 25, 2010, 04:23:54 PM ความพอดี...(หลวงพ่อชา สุภัทโท) อีกคำหนึ่งที่ลูกศิษย์ของหลวงพ่อได้ยินบ่อย ๆ จนติดหู คือคำว่า “พอดี” ท่านเคยพูดอยู่เสมอว่า ธรรมะคือพอดี ความพอดี คือ ทางสายกลางไปสู่ความดับทุกข์ แล้วท่านย้ำสอนให้แต่ละองค์แต่ละคน หาความพอดีของตัวเองในการประพฤติปฏิบัติ “เรามาฝึกการปฏิบัติ ทำไมท่านถึงให้เรากินน้อย นอนน้อย พูดน้อย อะไร ๆ ทุกอย่าง ให้มันน้อยไป ๆ คำที่ว่ามันน้อยน่ะ มันจะพอดีหรือ ความเป็นจริงนั้นยังไม่พอดี ไม่สม่ำเสมอ แต่ทำไมท่านถึงว่าให้เราทำให้มันน้อย พูดน้อย ๆ คุยน้อย ๆ นอนน้อย ๆ เพื่อให้เรารู้จักความพอดี ความเหมาะสมของตัวเรานั่นเอง ทุกท่านให้พยายาม รีบเกินไปก็ไม่ได้ ให้รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว หาความพอดี ถ้ามันน้อยไปเราก็เติม ถ้ามากไปเราเอาออก เป็นสัมมาปฏิปทาคือ พอดี ถ้ามันดื้อ ก็ใช้ข้อวัตรเข้าควบคุม ให้มันเข็ด ฝึกมันทรมานมัน ถ้ามันเป็นอีกก็ทำอีก นี่เรียกว่า การปฏิบัติหาทางพ้นทุกข์ของเรา การพูดจาปราศรัย ทุกอิริยาบถให้มีความรู้สึกอยู่ในใจของเรา ความพอดีนั้นเป็นแนวทางปฏิบัติที่ไม่ข้องแวะกับสิ่งสุดโต่ง กามสุขัลลิกานุโยโค คือ ใจของเราลุ่มหลงในความสุข ลุ่มหลงในความสบาย ลุ่มหลงในความดีใจ ลุ่มหลงว่าเราดี เราเลิศ เราประเสริฐ อัตตกิลมถานุโยโค คือ อาการที่ไม่พอใจ อาการที่เป็นทุกข์ อาการที่ไม่ชอบใจ อาการกริ้วโกรธ ธรรม ๒ อย่างนี้ ไม่ใช่หนทางของบรรพชิตจะพึงเดิน หนทางคือ อาการดีใจ หรือเสียใจ เดินทางคือ ตัวผู้รู้ของเรานั่นแหละผู้เดินทางคือ จิต ผู้สงบท่านไม่เดินทางนั้น แต่ว่าทางนั้นท่าน ก็เห็น อาการสุขก็เห็น แต่ท่านไม่มีอุปทานยึดมั่นกับมัน ปล่อยมันไป วางมันไป ละมันไป จึงเป็นผู้สงบ การรู้จักความพอดี ก็เกิดจากการพิจารณาความไม่แน่นั่นเอง การประพฤติปฏิบัตินี้ ต้องมีปฏิปทาที่พอดี ๆ ไม่สูงเกินไป อยู่ในระดับพอดี ถ้ามันเกินพอดี หรือ ต่ำกว่าพอดี มันก็ไปไม่ได้ ไม่ใช่สัมมาปฏิบัติของพระ ถ้าเราดูเสมอว่า ยืน นั่ง นอนน่ะ เรารู้สภาพอารมณ์ทั้งหลายมันพอดี โดยอำนาจที่ว่า ของมันไม่แน่แล้ว มันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นอีก แต่ว่าคนเรามันทนไม่ไหว มันอยากเกินขีด มันดันขึ้น ๆ ไม่รู้จักความพอดีของมัน ความพอดีของมัน เกิดจากที่ว่าเมื่อพบอารมณ์อะไร ก็บอกมันว่าไม่แน่ เรื่องอนิจจังเรียกว่าไม่แน่ ทนเอาอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ก้าวไป ไม่ถอยกลับ อยู่ตรงนี้ ทนไม่นานเดี๋ยวก็พบความจริงได้” |