หัวข้อ: อุปสรรรค
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ สิงหาคม 23, 2010, 08:54:01 PM
อุปสรรรค
'อุปสรรค'....คำนี้คงไม่มีใครไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ
ไม่เคยรู้จัก.. เพราะ ต้องเคยพบเจอมาบ้างไม่มากก็น้อย
การที่จะข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ โดยเอาชนะในทางที่ถูก
ทางที่ชอบ...มิใช่เอาชนะเพื่อประหัตประหารกันไปข้างหนึ่ง
ทางที่ถูก...ควรจะเอาชนะอุปสรรคในทางที่ชอบและพยายาม
รักษาส่งเสริมความดีของตน คิดให้เห็นว่า....
เราทำความดีเพื่อความดี...มิใช่เพื่ออวดดี มิใช่เพื่อให้ใครมาชม
ถ้ามีคำติคำชม ก็ควรนำมาคิดพิจารณาดูตัวเองมากกว่า
เพื่อแก้ไขตัวเราเองให้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่รับมาเป็นเครื่องหลอกตัว
เองว่า...วิเศษ เพราะเขาชม หรือเลวทรามเพราะเขาติเตียน
จะว่าอย่างไร ก็ช่างเขาอย่าเก็บเอามาเป็นอารมณ์.....
ตัวเราจะดีไม่ดีก็ล้วนอยู่ที่การกระทำของเราเอง..ใครไม่รู้แต่เรารู้เอง
โดยมาก...อุปสรรค ต่างเป็นเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยไม่มีสาระ
แต่มักจะรับเข้ายึดถือเป็นอารมณ์กวนใจให้เดือดร้อนไปเอง จนถึง
ให้ทอดทิ้งความดี ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ใชาเป็นความฉลาด แต่เป็น
ความเขลาของเราเอง ในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าเป็นผู้แพ้....
ส่วนการชนะนั้น ก็มิได้ประสงค์ให้ชนะในการก่อเวร แต่มุ่งให้เอาชนะ
ตนเอง คือชนะจิตใจที่ใฝ่ชั่วของตน และเอาชนะเหตุการณ์แวดล้อม
ที่มาเป็นอุปสรรคแห่งความดี....เพื่อที่จะรักษาและเพิ่มพูนความดี
ให้ดียิ่งๆขึ้นไป...ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ....ฯ
~ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์~
'อุปสรรค'....คำนี้คงไม่มีใครไม่เคยพบ ไม่เคยเจอ
ไม่เคยรู้จัก.. เพราะ ต้องเคยพบเจอมาบ้างไม่มากก็น้อย
การที่จะข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ โดยเอาชนะในทางที่ถูก
ทางที่ชอบ...มิใช่เอาชนะเพื่อประหัตประหารกันไปข้างหนึ่ง
ทางที่ถูก...ควรจะเอาชนะอุปสรรคในทางที่ชอบและพยายาม
รักษาส่งเสริมความดีของตน คิดให้เห็นว่า....
เราทำความดีเพื่อความดี...มิใช่เพื่ออวดดี มิใช่เพื่อให้ใครมาชม
ถ้ามีคำติคำชม ก็ควรนำมาคิดพิจารณาดูตัวเองมากกว่า
เพื่อแก้ไขตัวเราเองให้ดีขึ้น แต่ไม่ใช่รับมาเป็นเครื่องหลอกตัว
เองว่า...วิเศษ เพราะเขาชม หรือเลวทรามเพราะเขาติเตียน
จะว่าอย่างไร ก็ช่างเขาอย่าเก็บเอามาเป็นอารมณ์.....
ตัวเราจะดีไม่ดีก็ล้วนอยู่ที่การกระทำของเราเอง..ใครไม่รู้แต่เรารู้เอง
โดยมาก...อุปสรรค ต่างเป็นเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยไม่มีสาระ
แต่มักจะรับเข้ายึดถือเป็นอารมณ์กวนใจให้เดือดร้อนไปเอง จนถึง
ให้ทอดทิ้งความดี ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ไม่ใชาเป็นความฉลาด แต่เป็น
ความเขลาของเราเอง ในทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าเป็นผู้แพ้....
ส่วนการชนะนั้น ก็มิได้ประสงค์ให้ชนะในการก่อเวร แต่มุ่งให้เอาชนะ
ตนเอง คือชนะจิตใจที่ใฝ่ชั่วของตน และเอาชนะเหตุการณ์แวดล้อม
ที่มาเป็นอุปสรรคแห่งความดี....เพื่อที่จะรักษาและเพิ่มพูนความดี
ให้ดียิ่งๆขึ้นไป...ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ....ฯ
~ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์~