สนทนาธรรม ฟังธรรม อ่านธรรมะ บทความธรรมะ หลักธรรมคำสอน กฎแห่งกรรม dhamma

ธรรมะออนไลน์ => กระดานถาม-ตอบ => ข้อความที่เริ่มโดย: เลิศศักดิ์ ที่ พฤศจิกายน 26, 2015, 09:17:56 PM



หัวข้อ: ผิดศีลข้อสามหรือไม่
เริ่มหัวข้อโดย: เลิศศักดิ์ ที่ พฤศจิกายน 26, 2015, 09:17:56 PM
ลข้อที่ 3 กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม


ในสิกขาบทนี้ คำว่า "การประพฤติผิดในกาม" หมายถึงการร่วมประเวณีในบุรุษและสตรีที่ไม่ใช่สามี-ภรรยาคู่ครองของตนเอง เช่น มารดาบิดาล่วงละเมิดกับบุตรธิดาของตนเอง หรือพี่ชายพี่สาวล่วงละเมิดกับน้องชายน้องสาวของตนเอง ก็เป็นการผิดประเวณีทั้งสิ้น

จำแนกโดยละเอียด ดังนี้

บุคคลต้องห้ามสำหรับฝ่ายชาย คือ
(๑) ภรรยาคนอื่น
(๒) ผู้หญิงที่ยังอยู่ในความอุปการะของผู้อื่น (ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นอยู่)
(๓) ผู้หญิงที่จารีตต้องห้าม (แม่ ย่า ยาย พี่สาว น้องสาว ลูกสาว ชี หญิงผู้เยาว์)

บุคคลที่ต้องห้ามสำหรับฝ่ายหญิง คือ
(๑) สามีคนอื่น
(๒) ชายจารีตต้องห้าม (พ่อ ปู่ ตา พี่ชาย น้องชาย ลูกชาย พระภิกษุ สามเณร ชายผู้เยาว์)

ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่ใช่เฉพาะ ห้ามแต่ร่วมสังวาสเท่านั้น แม้แต่การเคล้าคลึง การพูดเกี้ยวพาราสี หรือการแสดงอาการ ปฏิพัทธ์แม้แต่ด้วยสายตาเนตรสบเนตร เป็นต้น ก็ชื่อว่า การละเมิดศีลข้อนี้แล้ว เมื่อไม่ล่วงละเมิดศีลข้อนี้แล้วเป็นผู้สำสวมในกามยินดีแต่ในภรรยาของตนเท่านั้น (สทารสันโดษ) จงรักภักดีแต่ในสามีของตน (ปติวัตร) ถ้ายังไม่ได้แต่งงานก็ต้องมีกามสังวร ตั้งตนอยู่ในขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม มีวัฒนธรรมอันดีชนิดที่ว่า "เข้าตามตรอกออกตามประตู"

ปัญหามีว่า ๑.ผู้หญิงที่ขายประเวณีผู้ชายไปเที่ยวทั้งสองยินยอมพร้อมใจผิดศีลข้อนี้หรือไม่
             ๒.ผู้หญิงที่ยังอยู่ในความอุปการะของพ่อแม่ เมื่อไรจะถือว่าพ้นจากการอุปการะ เช่น ถ้า ชายและหญิงยินยอมพร้อมใจสมัครใจอยู่ร่วมกันเป็นสามีภริยาโดยเห็นได้ชัดว่าฝ่ายชายสามารถเลี้ยงดูหญิงได้ อย่างไรก็ตามหญิงก็ยังอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของพ่อและแม่อยู่จะถือว่าผืดหรือไม่
             ๓.และถ้าฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายพาชายซึ่งอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของพ่อแม่ไปแต่งงานกันหญิงจะผิดหรือไม่
             ๔.ชายและหญิงยังอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของพ่อแม่ และทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันโดยไม่ได้รับความยินยอมผิดศีลข้อนี้หรือไม่
             ๕.กรณีชายและหญิงเป็นแฟนกันทั้งคู่ยินยอมพร้อมใจร่วมประเวณีกันเช่นนี้ทั้งคู่จะผิดศีลข้อนี้หรือไม่
             ๖.กรณีชายเลิกกับหญิงไปเพราะมีหญิงใหม่แต่ด้วยเหตุว่าคบกันต่อไปก็คงจะไปไม่รอดเช่นนี้ผิดหรือไม่


หัวข้อ: ผิดศีลข้อสามหรือไม่
เริ่มหัวข้อโดย: เกียรติคุณ ที่ ธันวาคม 12, 2015, 11:25:02 AM

การให้ความยอมรับให้คบหากันเป็นแฟนกันของผู้ปกครอง คือ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา บุพการี บุคคลในครอบครัว หรือ ผู้ที่ให้การอุปการะอยู่ ถือเป็นการอนุญาตให้หญิงหรือชายผู้นั้นอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นโดยเว้นขาดจากความถือครองในตน

ส่วนโสเภนี ก็มีอยู่ 2 ประเภท คือเต็มใจยินยอมของเจ้าตัว บ้างทางบ้านก็รู้ บ้างทางบ้านไม่รู้ ซึ่งตัวเขานั้นไม่ได้อยู่ในการอุปการะของพ่อแม่แล้ว และ อีกประการคือ การถูกจับถูกหลอกมาค้าประเวณี ซึ่งเหตุนี้ก็พอจะดูได้ว่าสิ่งไหนดีไม่ได้ผิดหรือถูก


    จะมีในชาดก 500 ชาติ ซึ่งผมจำไม่ค่อยได้แล้ว นานมาก รู้สึกเกือบ 10 ปีแล้วที่ได้อ่าน แล้วเท่าที่ผมพอจะจำไดก้จับประเด็นหลักได้ คือ.. เรื่องที่พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ แล้วพระราชามีเมียเป็นราชินีสวยมากๆๆๆๆงดงามฟ้าเลยเป็นที่รักยิ่งของพระราชา แล้วราชินีไปได้กับทหารอีกคนหนึ่ง ราชินีบอกรักทหารมาก พระโพธิสัตว์ท่านบอกแก่พระราชายให้อนุญาตให้องค์ราชินิกับทหารไปอยู่ด้วยกัน 3 เดือน พออยู่ครบ 3 เดือน ราชินีไม่ยอมกลับแล้วซ้ำยังจะหนีไปกับทหารอีก พระโพธิสัตว์จึงบอกแก่พระราชาว่าเมื่ออนุญาตให้เขาอยู่ด้วยกันก็เท่ากับเว้นขาดจากความถือครองแล้ว ประมาณนี้แหละครับ ซึ่งพระราชาก็ทรงเสียพระทัยมาก จากนั้นพระโพธิสัตว์ก็แสดงธรรมให้พระราชาถึงความสละให้ และ สละคืนความหวงแหนด้วยราคะ โทสะ โมหะ นั้นเสียได้

    ลองหาดูครับ และที่จริงท่านเลิศน่าจะมีคำตอบโดยในอภิธรรมอยู่แล้วแต่อยากจะถามแค่เพื่อให้ผู้ที่เข้าเวบธรรมมาตอบว่าจะเข้าใจตามจริงสักเพียงใด รู้ศีลดีแค่ไหน รู้พระวินัยหรือไม่ ประมาณนี้เท่านั้น และ อีกประการในแง่กุศลคือให้ผู้ปฏิบัติได้ทวนดูศีลในตนดูข้อห้ามข้อละเว้นที่ถูกต้องตามจริง

ขออนุโมทนาสาธุกับท่านเลิศด้วยครับ


หัวข้อ: ผิดศีลข้อสามหรือไม่
เริ่มหัวข้อโดย: จินดารัตน์ ที่ ธันวาคม 27, 2015, 02:30:02 PM
 แล้วถ้าหาก แยกกันอยุ่มาสิบปี โดยไม่ได้ติดต่อกันเลย เหมือนตายจากกันไป แต่ไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน แล้วต่างฝ่ายจะไปมีคนใหม่ แบบนี้จะผิดศีลข้อสามมั้ย


หัวข้อ: ผิดศีลข้อสามหรือไม่
เริ่มหัวข้อโดย: เกียรติคุณ ที่ มกราคม 04, 2016, 01:08:49 PM
- หากอีกฝ่ายยังมีความคิดติดยึดถือครองเป็นเจ้าของกันอยู่ มันก็ผิด แต่หากเป็นอิสระต่อกันแล้ว คือ ถือเป็นการเลิกราไม่ยึดครอง หมดสิ้นไม่ถือครองกันอีก ไม่มีจิตติดยึดผูกหน่วงเหนี่ยวโหยหาถือครองกันอีก อันนี้ก็ไม่ผิดศีล

อีกประการ
- เมื่อครองคู่โดยไม่แต่งงาน ไม่เป็นที่ยอมรับของพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่าย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง..มันก็ผูกติดเรื่องพ่อแม่อยู่แล้ว
- หากพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายยินดีให้คบหาอยู่ร่วมกันก็เป็นเหมือนการครองคู่แต่งงานกันแล้ว
- หากคบกันแค่เสพย์เมถุนแล้วก็แค่นั้นผ่านๆไป ก็เป็นเหมือนต่างฝ่ายต่างเป็นโสเภนีชาย หญิง คือ สถานที่เที่ยวเสพย์เมถุน แก่กันเท่านั้น ยิ่งหากพ่อแม่ไม่รู้ไม่ยินดีัก็ผิดชต่อพ่อแม่เพิ่มไปอีกกระทง
 
** เพราะเหตุอย่างนี้ๆแล การไม่ผิดศีล ไม่ทำกาเมสุมิจฉาจาร ไม่คบชู้ รักนวลสงวนตัว ทำให้ถูกประเพณี จึงเป็นการหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ ก็เพื่อตัวเราเอง ให้ขึ้นชื่อว่า เบญจกัลยาณี หากมองกันแต่โสเภนีคงไม่ยินดีนัก


บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters