หัวข้อ: การให้ทานแก่ผู้มีศีล เริ่มหัวข้อโดย: มุ่ยซัน ที่ กรกฎาคม 06, 2015, 03:03:27 PM ดูก่อน วัจฉะ ทานที่ให้แก่ท่านผู้มีศีลมีผลมาก ท่านผู้มีศีลนั้นเป็นผู้ละองค์ ๕ ได้แล้ว ประกอบด้วยองค์ ๕ ละองค์ ๕ เหล่าไหนได้ คือ ละกามฉันทะ ๑ (ความพอใจในกาม) พยาบาท ๑ (การมุ่งคิดร้าย) ถีนมิทธะ ๑ (ความง่วงเหงาหาวนอน) อุทธัจจกุกกุจจะ ๑ (ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ) วิจิกิจฉา ๑ (ความสงสัยลังเลใจ) ท่านผู้มีศีลละองค์ ๕ นี้ได้แล้ว ประกอบด้วย องค์ ๕ เป็นไฉน คือ ประกอบด้วยศีลขันธ์ที่เป็นของพระอเสขะ ๑ (กองศีล) ประกอบ ด้วยสมาธิขันธ์ที่เป็นของพระอเสขะ ๑ (กองสมาธิ) ประกอบด้วยปัญญาขันธ์ที่เป็นของพระ อเสขะ ๑ (กองปัญญา) ประกอบด้วยวิมุตติขันธ์ที่เป็นของพระอเสขะ ๑ (กองวิมุตติ) ประกอบด้วย วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ที่เป็นของพระอเสขะ ๑ (กองวิมุติญาณทัสสนขันธ์) ท่านผู้มีศีลประกอบด้วยองค์ ๕ นี้ เรากล่าวว่า ทานที่ให้ในท่านที่ละองค์ ๕ ได้ ประกอบด้วยองค์ ๕ ดังกล่าวมา มีผลมาก ฯ http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=4227&Z=4284 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=20&A=4227&Z=4284) ผู้ละความสงสัยได้เป็นพระโสดาบัน ผู้ละความโกรธได้เป็นพระอนาคามี ผู้ละความถือตัว ความง่วงได้เป็นพระอรหันต์ ดังนั้น การฝึกปฏิบัติเพื่อละองค์ 5 เราต้องรู้ทันความคิดอยู่ตลอดเวลา รู้ทันต้นเหตุตลอดเวลา คือตัวจะ เวลาจะคิดกำหนดจะคิดดับๆ เวลาจะละความพยาบาทใครกำหนด จะพยาบาทดับๆ จะเคืองดับๆ เวลาจะง่วง กำหนดจะง่วงดับๆ เวลาจะฟุ้งซ่านกำหนด จะฟุ้งดับๆ เวลาจะสงสัยกำหนด จะสงสัยดับๆ เรารู้ทันจะเกิดก็รู้ทันว่าจะเกิด จะดับก็รู้ว่าจะดับ จะไม่เกิดดด้วยอาการใดก็รู้ทันว่าไม่เกิดด้วยอาการใด จะเกิดด้วยอาการใดก็รู้ทันว่าเกิดด้วยอาการใดทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วน ทำไม่ให้มี ไม่ให้เกิดอีกต่อไป ผู้ใดละองค์ 5 ได้ ผู้นั้นก็เป็นพระอรหันต์แล้ว |