หัวข้อ: พิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ ตุลาคม 01, 2010, 08:55:54 PM พิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญในทางพระพุทธศาสนา ที่พุทธศาสนิกชนนิยมประกอบพิธีกรรม มีการบูชาเป็นต้น เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นพิเศษ แต่เดิมกำหนดไว้ ๓ วัน คือ วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วันมาฆบูชา ภายหลังเพิ่มวันอาสาฬหบูชา เข้าอีกวันหนึ่ง รวมเป็น ๔ วัน ๑. วันวิสาขบูชา คือ วันเพ็ญเดือน ๖ แต่ในปีที่มีอธิกมาสเลื่อนไปเป็น วันเพ็ญเดือน ๗ วันนี้นิยมว่า เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธประสูติคล้ายวันที่ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานซึ่งสามกาลสามสมัย ของพระพุทธองค์ตกในวันเพ็ญเดือนวิสาขะทั้งนั้น เหตุนั้นพุทธศาสนิกชนจึง นิยมทำการบูชาเป็นพิเศษ ในเมื่อวันเช่นนี้เวียนมาถึงทุก ๆ ปีและเรียกวันนี้ว่า วันวิสาขบูชา ๒. วันอัฏฐมีบูชา คือ วันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ หรือเดือน ๗ นับถัดจาก วันวิสาขบูชาไป ๗ วัน เป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระที่เมือง กุสินารา เป็นวันสำคัญที่ระลึกถึงพระพุทธองค์อีกวันหนึ่ง เหตุนั้น เมื่อถึงวันเช่นนี้ ทุก ๆ ปี พุทธบริษัทจึงนิยมทำการบูชาพิเศษอีกวันหนึ่ง และเรียกวันนี้ว่า วันอัฏฐมีบูชา ๓. วันมาฆบูชา คือ วันเพ็ญเดือน ๓ ถ้าปีในมีอธิกมาส ปีนั้นเลื่อนไป เป็นวันเพ็ญเดือน ๔ วันนี้นิยมว่า คล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปติโมกข์ อันเป็นหลักการของพระพุทธศาสนา เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น ในท่ามกลาง พระอริยสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ องค์ ซึ่งล้วนเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ มาประชุม พร้อมกันโดยบังเอิญมิได้นัดหมายกันมา ในปีแรกที่พระองค์ตรัสรู้ และเริ่ม ประกาศพระศาสนาแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ครั้งเดียว และครั้งนั้นพระองค์ ก็ทรงวางหลักการของพระศาสนาในท่ามกลางสงฆ์นั้น ซึ่งเรียกว่า โอวาทปาติโมกข์ การประชุมในวันนั้นเรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต เพราะเป็นการประชุมประกอบ ด้วยองค์ ๔ คือ (๑) ภิกษุสงฆ์ที่มาประชุมจำนวน ๑,๒๕๐ องค์ เป็นจำนวนที่ พระองค์ได้ในการมาประกาศพระศาสนาในกรุงราชคฤห์ เป็นครั้งแรกที่ตรัสรู้ ท่าน เหล่านั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ (๒) ท่านเหล่านั้นล้วนเป็นเอหิภิกขุ ผู้อุปสมบทมาแต่สำนักพระพุทธองค์ (๓) ท่านเหล่านั้นไม่มีใครเชื้อเชิญ บังเอิญ ใจตรงกันมาประชุม ในเวลาเดียวกันโดยลำพังตนเองและ (๔) วันที่ประชุมนั้น เป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะด้วย เพราะวันนี้มีความสำคัญดังกล่าวนี้ภายหลังจึงเกิด นิยมทำการบูชาพระรัตนตรัยเป็นพิเศษในวันนี้ แล้วเรียกวันนี้ว่า วันมาฆบูชา ๔. วันอาสาฬบูชา คือ วันเพ็ญเดือน ๘ ก่อนวันเข้าปุริมพรรษา ๑ วัน เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ เทศน์กัณฑ์แรก ชื่อ ธรรมจักกัปปวัตตนสูตร โปรดพระปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันแขวงเมือง พาราณสี ในปีที่ตรัสรู้ใหม่ และเพราะผลของพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ เป็นเหตุ ให้ท่านพระโกณฑัญญะในจำนวนพระปัญจวัคคีย์ ได้ธรรมจักษุดวงตาเห็นธรรม เปลี่ยนลัทธิมารับนับถือศาสนา ทูลขอบรรพชาอุปสมบทต่อพระพุทธองค์ เป็น พระอริยสงฆ์องค์แรกทีเดียว วันนี้จึงเป็นวันเกิดขึ้นแห่งสังฆรตนะอีกโสดหนึ่ง ด้วย เหตุนั้น วันนี้จึงนับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งและเกิดนิยมกำการบูชาพิเศษ ในเมื่อถึงวันเช่นนี้ทุก ๆ ปี เพิ่มขึ้นอีกเรียกวันนี้ว่า วันอาสาฬหบูชา การบูชาพิเศษในวันสำคัญทั้ง ๔ นี้ ก็คือ การเวียนเทียน นอกเหนือไป จากประชุมทำวัตรสวดมนต์ และฟังเทศน์ตามปรกติในวันนั้น การเวียนเทียนนี้ คือการที่พุทธบริษัทถือดอกไม้ธูปเทียนจุดประนมมือ เดินเวียนขวา ที่เรียกว่า ประทักษิณรอบปูชานียวัตถุในวัด หรือในสถานแห่งใดแห่งหนึ่ง ๓ รอบ ส่งใจ ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยในขณะเดินเวียน เสร็จแล้วนำดอกไม้ธูปเทียนนั้นปัก บูชาปูชนีวัตถุที่เวียนนั้นเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูงด้วยเครื่องสักการะ บูชา ในการนี้มีระเบียงปฏิบัติที่นิยม ดังนี้ ระเบียบพิธี พิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทั้ง ๔ วัน มีระเบียบปฏิบัติเหมือนกันตลอด ต่างกัน แต่คำบูชาก่อนเวียนเทียน ซึ่งกำหนดใช้เฉพาะวันนั้นๆ แต่ละวันเท่านั้นระเบียบของพิธีมีอยู่ว่า เมื่อถึงกำหนดวันสำคัญนั้น ๆ ให้ทางวัดประกาศให้ พุทธบริษัททราบทั่วกันทั้งชาววัดและชาวบ้านและบอกกำหนดเวลาประกอบ พิธีด้วย ว่าจะประกอบเวลาไหน จะเป็นตอนบ่ายหรือตนค่ำก็ได้แล้วแต่สะดวก ถึงเวลากำหนด ทางวัดตีระฆังสัญญาณให้พุทธบริษัท ทั้งภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกาประชุมพร้อมกัน ที่หน้าพระอุโบสถหรือพระเจดีย์ อันเป็นหลัก ของวัดนั้น ๆ ภิกษุอยู่แถวหน้าถัดไปสามเณร ท้ายสุดอุบาสกอุบาสิกาจะจัดให้ ชายอยู่กลุ่มชาย หญิงอยู่กลุ่มหญิง หรือปล่อยให้คละกันตามอัธยาศัยก็แล้วแต่ จะกำหนดทุกคนถือดอกไม้ธูปเทียนตามแต่จะหาได้และศรัทธาของตน แต่ เทียนควรหาชนิดที่ไส้ใหญ่มีด้ายมากเส้นและเป็นเทียนขี้ผึ้งด้วยจึงจะดีเพราะ เมื่อจุดเดินไปจะได้ไม่ดับง่ายและน้ำตาเทียนไม่หยดเลอะเทอะทำสกปรก ควร กะขนาดของเทียนให้จุดเดินได้จนครบ ๓ รอบ สถานที่ที่เดิน ไม่หมดเสียใน ระหว่างเดิน เมื่อพร้อมกันแล้ว หัวหน้าสงฆ์จุดเทียนและธูป ทุกคนจุดของตนตาม เสร็จแล้วทุกคนถือดอกไม้ธูปเทียนที่จุดแล้วประนมมือหันหน้าเข้าหาปูชนียสถาน ที่จะเวียนนั้น หัวหน้าสงฆ์นำว่า นโม...พร้อมกัน ๓ จบ ต่อนั้นนำว่าคำถวาย ดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ตามแบบที่กำหนดไว้สำหรับวันนั้น ๆ เป็น คำ ๆ เฉพาะบาลีเท่านั้น (ถ้ามีโอกาสและเห็นสมควรจะว่าคำแปลด้วยก็ได้) ทุกคน ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ว่าตามจนจบ ต่อนั้น หัวหน้าสงฆ์เดินนำแถวด้วยอาการประนมมือถือดอกไม้รูปเทียน นั้นไปทางขวามือของสถานที่ที่เวียน คือ เดินเวียนไปทางที่มือขวาของตนหัน เข้าหาสถานที่ที่เวียนนั้นทุกคนเดินเรียงแถวเรียง ๑-๒-๓-๔ ฯลฯ แล้วแต่เหมาะ เว้นระยะห่างกันพอสมควร ตามหัวหน้าไป โดยอาการเช่นเดียวกัน ระหว่างเดิน เวียนรอบที่หนึ่งพึงตั้งใจระลึกถึงคุณพระพุทธคุณโดยนัยบท อิติปิ โส ภควา ฯลฯ รอบที่สองระลึกถึงพระธรรมคุณ โดยนัยบท สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ฯลฯ และรอบที่สามระลึกถึงพระสังฆคุณโดยนัยบท สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ฯลฯ ครบ ๓ รอบแล้วนำดอกไม้ธูปเทียนไปปักบูชาตามที่ที่เตรียมไว้ ต่อนั้นจึง เข้าไปประชุมพร้อมกันในพระอุโบสถหรือวิหาร หรือศาลการเปรียญ แล้วแต่ที่ ทางวัดกำหนดเริ่มทำวัตรค่ำและสวดมนต์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์อย่างพิธีกรรม วันธรรมสวนะธรรมดาเสร็จแล้วมีเทศน์พิเศษแสดงเรื่องพระพุทธประวัติและ เรื่องที่เกี่ยวกันวันสำคัญนั้น ๑ กัณฑ์เป็นอันเสร็จพิธี แต่ถ้าพุทธบริษัทพร้อมใจ กันมีอุตสาหะและศรัทธาเต็มที่ จะจัดให้มีเทศน์เป็นกัณฑ์ ๆ ไป และสวดสลับ กันไปจนถึงกาลอันควรหรือจนตลอดรุ่งก็ได้. แบบประกอบนักธรรมตรี - ศาสนพิธี เล่ม ๑ - หน้าที่ 23-26 |