หัวข้อ: กลอนธรรมะอ่านเพลินๆ ตอน นางวิสาขา ภาค 1 เริ่มหัวข้อโดย: พระดิน สมาหิโต ที่ เมษายน 12, 2013, 03:21:12 PM นางวิสาขา มหาอุบาสิกา ผู้ฉลาดในการทำบุญ • ตามประวัติ พระอานนท์ ท่านกล่าวไว้ ความเป็นไป ของนาง วิสาขา ผู้เป็นเลิศ เบญจ กัลยา ในโลกา หาใครเปรียบ เทียบไม่เจอ • นางมีผม ดำขลับ ยาวสลวย ฟันเรียงสวย เป็นแถว ขาวสดใส ริมฝีปาก อวบอิ่ม ช่างพิมพ์ใจ อีกทั้งวัย งามแรกรุ่น ดรุณี • อีกหนึ่งงาม คือผิวพรรณ นั้นขาวผ่อง ช่างน่ามอง เนียนนวล ชวนฝันหา ทั้งกิริยา อ่อนช้อย ช่างงามตา อีกวาจา ก็พริ้งเพราะ เหมาะเหลือเกิน • เป็นลูกสาว ธนัญชัย ท่านเศรษฐี ผู้มั่งมี เงินทอง กองท่วมหัว อยู่สาเกตุ เป็นบ้านเกิด ของเจ้าตัว ทั้งครอบครัว บ่าวไพร่ ก็หลายคน • เมื่อถึงวัย แต่งงาน กาลเหมาะสม น่าชื่นชม ปุณณเศรษฐี รี่มาขอ มีศักดิ์ศรี ทรัพย์สิน เหมาะสมพอ ส่งทูตขอ เป็นสะใภ้ ในเรือนตน • การแต่งงาน มโหฬาร เป็นอย่างยิ่ง ของทุกสิ่ง ต้องล้ำค่า กว่าใครเขา มหาลดาปราสาธน์ ชุดวิวาห์ สวยไม่เบา เพราะเขาเอา เพชรพลอย มาร้อยเรียง • เพชรที่ใช้ ไปทั้งหมด สี่ทะนาน อลังการ แก้วมุกดา มีมากโข สิบเอ็ดทะนาน นับได้ ไม่ใช่โว พลอยเม็ดโต ห้าสิบสาม ทะนานเชียว • ลูกดุมนั้น สวยล้ำ ทำด้วยทอง ห่วงที่คล้อง ทำด้วยเงิน บริสุทธิ์ ไม่มีด้าย สักเส้น มาทำชุด แพงที่สุด นับแต่ใคร ทำใช้มา • บนศีรษะ เป็นนกยูง รำแพนขน งามน่ายล ขนเป็นทอง ผ่องนักหนา แก้วมณี เม็ดโต เป็นนัยน์ตา อีกแข้งขา เป็นเงินล้วน ชวนน่ามอง • ตีราคา ชุดแล้ว ลมแทบใส่ ก็คิดได้ เก้าสิบล้าน กหาปณะ ถามค่าแรง แพงจน แทบผงะ แสนกหาปณะ คือค่าแรง เครื่องแต่งตัว • ใช้เวลา ทำสี่เดือน จึงเสร็จสิ้น ไร้มลทิน ไร้ตำหนิ ให้ติได้ ตั้งแต่หัว จรดเท้า ประดับกาย เลิศลวดลาย งามสง่า น่าดูชม • ที่พรรณนา มาชุดนี้ มีที่ไป ให้จำไว้ ชุดนี้ มีความหมาย จะเกิดเหตุ เป็นประโยชน์ อย่างมากมาย ตอนท้ายท้าย จะได้กล่าว เล่าให้ฟัง • ก่อนจะต้อง ย้ายไปอยู่ สู่เรือนผัว ในครอบครัว ต้องอบรม พ่อสั่งสอน ควรทำตัว เป็นกุลสตรี มีหัวนอน คำพ่อสอน จงจำไว้ ให้จงดี • ข้อหนึ่งนั้น ไฟใน อย่านำออก ไฟข้างนอก ข้อสอง อย่านำเข้า ข้อที่สาม จงให้ผู้ ที่ให้เรา สี่อย่าเอา ทรัพย์ให้ใคร ที่ไม่คืน • ห้าจงให้ คนที่ให้ และไม่ให้ หกจำไว้ นั่งให้เป็น เช่นวิถี เจ็ดจำไว้ นอนให้เป็น ถูกวิธี ข้อแปดดี บริโภคเป็น เช่นคนงาม • ส่วนข้อเก้า นั้นเจ้า ควรบูชา ก็เทวดา อย่าไรเล่า เข้าใจไหม ข้อสิบนี้ เจ้าควร บูชาไฟ จำใส่ใจ ในวิธี สิบประการ • ส่วนความหมาย จะขยาย ตอนกลางเรื่อง อย่าขุ่นเคือง ถึงกลางเรื่อง ได้รู้แน่ อย่าเพิ่งเบื่อ ทิ้งหนังสือ ไม่ถือแล เป็นคุณแท้ สำหรับผู้ อยู่ครองเรือน • เมื่อต้องย้าย เป็นสะใภ้ เรือนพ่อผัว ทั้งครอบครัว ไม่นับถือ พุทธศาสนา แต่นับถือ นิครนถ์ เปลือยกายา ชอบเชิญมา กินข้าวปลา ที่ในเรือน • ส่วนนางนั้น นับถือ พระพุทธเจ้า อยู่บ้านเก่า ไปฟังธรรม อยู่ทุกเมื่อ ได้ใส่บาตร ข้าวปลา หาจุนเจือ ฟังไม่เบื่อ ใช้พระธรรม นำจิตใจ • นางเห็นพวก นิครนถ์ แสนอุจาด ไม่องอาจ อย่างพระพุทธองค์ พระทรงศรี คอยหลบหน้า ไม่ออกมา หาวิธี คอยเลี่ยงหนี เพราะกระดาก ไม่อยากมอง • ส่วนพ่อผัว ไม่พอใจ ในสะใภ้ แต่เกรงใจ ไม่กล้าว่า ให้อายเขา คอยเก็บกด ไว้ในใจ หนักไม่เบา นานนานเข้า ก็ระเบิด เกิดอารมณ์ • วันหนึ่งนั้น พ่อผัว นั่งทานข้าว ในยามเช้า นั่งกินข้าว อยู่ชานบ้าน หมู่พระสงฆ์ บิณฑบาต เขาทำทาน ใกล้ซุ้มบ้าน พอมองเห็น เป็นชัดเจน • นางวิสาขา นั่งอยู่คอย ปรนนิบัติ คอยโบกปัด ไล่แมลง ให้พ่อผัว เห็นพระสงฆ์ เดินมาหยุด หน้าบ้านตัว บอกพ่อผัว ให้ใส่บาตร หยาดน้ำกัน • ส่วนพ่อผัว ก็ไม่มอง ทำไม่สน พระยืนทน อยู่นาน ทำไม่เห็น ข้านับถือ นิครนถ์ ศาสนาเชน ผิดประเด็น ไหว้หัวโล้น โกนทำไม • นางวิสาขา จึงไปบอก กับพระสงฆ์ พระท่านจง บิณฑบาต บ้านอื่นเขา พ่อผัวฉัน กำลังกิน อร่อยไม่เบา กินของเก่า เขาทำไว้ ไม่หมดลง • ฝ่ายพ่อผัว พอได้ยิน เป็นเต้นเร่า เรียกนางเข้า ไปต่อว่า ด่าเสียหาย ถือดีนัก มาว่าเรา ให้ได้อาย พูดมาได้ กินของเก่า เน่าโสมม • ตั้งแต่ครั้ง พ่อเจ้าสอน ก่อนมานี่ สอนไม่ดี สอนอะไร ไม่เข้าท่า สอนไม่ให้ เอาไฟออก นอกชายคา ไฟดับมา เพื่อนบ้านขอ มาต่อไฟ • แล้วยังมา ว่าเรากิน ของเก่าอีก เจ้าจงหลีก จงหนีไป ให้ไกลหน้า เจ้าจงเก็บ ข้าวของ ที่หอบมา แล้วมุ่งหน้า กลับบ้านไป อย่าให้เจอ • นางวิสาขา กล่าวว่า โปรดท่านพ่อ โปรดจงรอ ลูกอธิบาย หายสงสัย อธิบายแล้ว ผิดถูก จะยังไง ลูกจะไป อย่างแน่นอน ไม่งอนเลย • ยามลูกมา ก็มาอย่าง มีศักดิ์ศรี ยามกลับที ก็ต้องมี ศักดิ์ศรีด้วย ไม่ควรมา ขับไล่ เหมือนตัวซวย โปรดฟังด้วย เหตุผล คนเจริญ • เรื่องที่พ่อ ของฉัน นั้นสอนสั่ง ท่านจงฟัง ให้ดี นี่ความหมาย ไม่รู้เรื่อง อย่าทำเคือง ทำโวยวาย อธิบาย ให้ท่านฟัง จงตั้งใจ • ข้อหนึ่งนั้น ไฟใน อย่านำออก พ่อฉันบอก งดนินทา ว่าพ่อผัว ไม่ให้นำ เรื่องราว ในครอบครัว ไปบอกทั่ว ให้คนนอก เขาได้ยิน • ข้อที่สอง ไฟนอก อย่านำเข้า อย่านำเอา เรื่องราวร้อน มาเข้าบ้าน เรื่องของเขา เราไม่ยุ่ง มุ่งทำงาน จะร้าวราน ถ้าไปยุ่ง มุ่งนินทา • ข้อที่สาม จงให้ผู้ ที่ให้เรา ท่านเปรียบเอา ผู้ที่ยืม แล้วมักคืน เป็นผู้ที่ ซื่อสัตย์ มีจุดยืน ยืมแล้วคืน จึงน่าพบ มาคบกัน • ข้อที่สี่ จงอย่าให้ ผู้ไม่ให้ เพราะยืมไป ทำเป็นลืม ไม่คืนมอบ พอถามทวง ก็ทำใบ้ ไร้คำตอบ ควรรอบคอบ ก่อนจะให้ ใครเขายืม • ห้าจงให้ คนที่ให้ และไม่ให้ ท่านเปรียบไว้ ญาติพี่น้อง ต้องทุกข์ยาก จงช่วยเหลือ เจือจุน ยามลำบาก ถึงแม้หาก เขาไม่คืน ก็ต้องช่วย • ข้อที่หก พ่อสอนสั่ง นั่งให้เป็น คือประเด็น ให้รู้จัก ที่ต่ำสูง ผู้ใหญ่นั่ง อยู่นั้น อย่ายืนมุง นั่งไล่ยุง ให้ท่าน นั้นสมควร • ข้อที่เจ็ด นอนทีหลัง แต่ตื่นก่อน อย่ามัวนอน คุดคู้ ดูน่าขัน ให้ตื่นก่อน แล้วเตรียมไม้ ไว้สีฟัน เตรียมน้ำขัน ให้ครอบครัว อย่ามัวนอน • ข้อที่แปด อย่าแย่งกิน ก่อนผู้ใหญ่ ยามกินให้ อ่อนช้อย เรียบร้อยกว่า จะกินข้าว ให้สำรวม กิริยา งดวาจา อย่าเอื้อนเอ่ย เลยตอนกิน • ข้อเก้านั้น จงบูชา เทวดา คือรักษา เอาใจ ในสามี ปรนนิบัติ ผัวตน ให้ดีดี เพราะสามี นั้นเปรียบเหมือน เทวดา • ข้อสิบนั้น บอกให้ บูชาไฟ ให้เข้าใจ คือพ่อผัว และแม่ผัว ปรนนิบัติไม่ดี ไฟย้อน มาร้อนตัว ครองครอบครัว อย่างนี้ ดีเจริญ • เมื่อพ่อผัว ได้ฟัง ดั่งนางว่า พิจารณาโทษ ไม่มี ที่มองเห็น อารมณ์อ่อน ย้อนถาม อย่างใจเย็น แล้วประเด็น กินของเก่า เล่าว่าไง • นางก็ตอบ ว่าท่านนี้ มีสมบัติ ที่เปลี่ยนผลัด รุ่นสู่รุ่น เหมือนทุนเก่า หากไม่เร่ง สร้างบุญ มาหนุนเอา นานวันเข้า บุญเก่าหมด จักร้าวรอน • ควรเร่งสร้าง บุญทาน การกุศล ให้ช่วยดล ไม่ตกยาก จากวิถี กินแต่บุญ เก่าหมด ลดความดี งดวิธี สร้างบุญใหม่ ให้มาเติม • ลูกหวังดี ต่อพ่อนี้ ไม่มีอื่น ให้ชื่นมื่น ในกุศล ดลเกื้อหนุน อยากให้พ่อ มีจิตใจ ใฝ่ทำบุญ เพราะเป็นคุณ อันวิเศษ เหตุความดี • เมื่อพ่อผัว ฟังจบ ครบทุกข้อ ก็งอนง้อ ขอโทษ ที่โจษเจ้า พ่อไม่ทัน รู้ความหมาย ปัญญาเบา อย่าถือเอา เป็นอารมณ์ ไม่สมควร • ต่อไปนี้ เชิญเถิดเจ้า ทำบุญเถิด อย่าเตลิด หนีบ้านไป ไม่แยแส บ้านเรานี้ มีบุญแล้ว เจ้าดูแล เป็นบุญแท้ ได้เจ้าไว้ สะใภ้ดี • วันรุ่งขึ้น นางจึงไป ยังวิหาร ใจเบิกบาน อาราธนา พระทรงศรี พระพุทธองค์ ทรงเมตตา หม่อมฉันที วันพรุ่งนี้ เชิญนิมนต์ ฉันบนเรือน • ตั้งแต่แต่ง เข้าบ้านนี้ ไร้โอกาส ทำให้พลาด การทำบุญ คุณกุศล เพราะครอบครัว นับถือแต่ นิครนถ์ หม่อมฉันทน ไม่ไหว ในชีเปลือย • เชิญพระองค์ ทรงเสด็จ ไปโปรดสัตว์ ไม่ให้พลัด หลงไป เป็นเหยื่อเขา โปรดชี้ทาง สว่างให้ ครอบครัวเรา ให้พวกเขา เปิดดวงตา ปัญญาธรรม • อันความดี คนดี นั้นใฝ่หา อันวิชา นักปราชญ์ มักคาดหวัง นักกีฬา ก็อยากดี มีกำลัง ผู้เจริญหวัง ตั้งหน้า ค้นหาธรรม • รุ่งขึ้นนาง เตรียมข้าวปลา และอาหาร ดำเนินการ เรียบร้อย ไว้คอยท่า ถึงกำหนด พระพุทธองค์ ทรงเสด็จมา ฉันข้าวปลา เสร็จแล้ว แสดงธรรม • พระพุทธองค์ ทรงตรัส เอาไว้ว่า ทั้งข้าวปลา ทั้งเรือนทอง ของใช้สอย ทั้งแก้วมณี เพชรนิล จินดาพลอย อีกแหวนสร้อย ก็ไร้ค่า เวลาตาย • แต่กรรมที่ คนทำด้วย กายวาจา ยามลับลา ย่อมติดไป ในโลกหน้า ดั่งเงาตน ติดตามตัว ทุกเวลา ควรตั้งหน้า สร้างกรรมดี มีมงคล • ก็เพราะบุญ เป็นที่พึ่ง สัตว์ทั้งปวง เหมือนช้างงวง พึ่งงา ในป่าใหญ่ พึ่งงวงงา ฝ่าอุปสรรค หักข้ามไป บุญนั้นไซร้ ก็เช่นกัน อย่างนั้นเลย • พระองค์ทรง เห็นด้วย กับนักปราชญ์ ผู้ฉลาด กล่าวไว้ ได้เข้าท่า ไฟไหม้บ้าน ขนของ ออกเรือนมา ได้พึ่งพา ของชิ้นนั้น กันต่อไป • ส่วนของที่ ไม่ได้ขน จนไฟไหม้ พึ่งไม่ได้ สักชิ้น เพราะสิ้นสูญ ไฟนั้นเผา เป็นเถ้าถ่าน ผลาญเป็นจุล ใช้เป็นทุน ทำอะไร ไม่ได้เลย • ในโลกนี้ เราถูกไฟ แห่งสังขาร เข้ามาผลาญ ให้ร่างกาย ได้เสื่อมถอย ความเจ็บแก่ รุกราน ไม่นานคอย ควรทยอย ขนความดี หนีออกมา • หากขนผิด ขนแต่กรรม ที่ทำชั่ว ยามที่ตัว ตายไป ละสังขาร กรรมที่ขน ออกไป เพราะใจพาล ไม่ได้การ ต้องเกิดมา ชดใช้กรรม • ผู้ที่มี ปัญญา เห็นถ่องแท้ ตั้งใจแน่ สร้างกรรมดี ให้มีผล ยามละโลก นี้ไป เพราะวัยตน บุญจะดล ให้ได้ไป ใช้กรรมดี • ผู้มีใจ ตระหนี่ และขี้หวง ทรัพย์ทั้งปวง จ้องจะเก็บ เหน็บซ่อนหนี เหมือนชาวนา ไม่ยอมหว่าน พันธุ์ข้าวดี เมล็ดพันธุ์นี้ เก็บจนเก่า เน่าเสียไป • หนึ่งเมล็ดข้าว ได้หนึ่งรวง นั้นฉันใด ทานทำไป ก็ฉันนั้น มหาศาล การเก็บทรัพย์ เอาไว้ ไม่แจกทาน บุญจะบาน มาให้เรา ได้อย่างไร • เมื่อให้ทาน จิตใจ ควรผ่องใส เมื่อให้ไป อย่าเสียดาย ในทรัพย์สิน มอบทานให้ ผู้ปฏิบัติดี เป็นอาจิณ แบ่งทรัพย์สิน เป็นทาน ผู้ทุกข์ทน • ให้ทานแล้ว แผ่บุญไป ให้ถ้วนทั่ว ไม่ต้องกลัว บุญไม่หมด ลดไปแน่ เหมือนเปลวเทียน เวียนกันต่อ ยาวเป็นแพ ไฟกระแส ก็ไม่หด ลดน้อยลง • บุญทำไว้ เหมือนน้ำ ในลำธาร ไหลเนิ่นนาน ลงสู่ ทะเลใหญ่ ระเหยขึ้น เป็นเมฆ บนฟ้าไง ตกห่าใหญ่ ลงกระหน่ำ ให้ฉ่ำเย็น • อันยศลาภ หาบไป ไม่ได้แน่ ยกเว้นแต่ ต้นทุน บุญกุศล ทิ้งสมบัติ ทั้งหลาย เมื่อวายชนม์ ตัวของตน เขายังเอา ไปเผาไฟ (กลอนบทเก่า) • ตั้งแต่นั้น พ่อผัวนาง ก็เห็นแจ้ง ไม่คลางแคลง ในบุญกรรม ทำเห็นผล นับถือลูก สะใภ้เป็น เหมือนแม่ตน ยกย่องจน นางสะเทิ้น และเขินอาย • นางเป็นที่ ยอมรับ คนทั้งหลาย มีมากมาย สรรเสริญ เชิญไปหา หากมีงาน มงคล เช่นวิวาห์ มักจะมา เชิญนางให้ ไปอวยพร • มีคราวหนึ่ง นางกลับจาก งานวิวาห์ ตั้งใจว่า จะไปไหว้ พระทรงศรี ด้วยหัวใจ ใฝ่จะฟัง พระธรรมดี แต่ชุดนี้ ไม่เหมาะสม บังคมทูล • เพราะชุดนี้ ที่ใส่ ไปงานเขา หนักไม่เบา รุ่มร่าม งุ่มง่ามหนอ ก็คือชุด มหาลดาปราสาธน์ ทองถักทอ จึงร้องขอ ชุดธรรมดา มาแต่งตัว • ก่อนเข้าไป ฝากไว้ นางทาสี ดูให้ดี เราจะไป ในวิหาร เพราะไว้ใจ นางรับใช้ ที่ชำนาญ เคยใช้งาน จนสนิท ชิดเชื้อกัน • เมื่อฟังธรรม จนเหมาะสม แก่เวลา ก็ออกมา จะเดินทาง ตรงกลับบ้าน ร้องเรียกหา ชุดที่ไว้ ใช้ออกงาน เกิดเหตุการณ์ นางทาสี ที่ขี้ลืม ฉบับหน้ามาติดตามกัน ต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับชุด มหา ลดาปราสาท อันสุดแสนแพง |