หัวข้อ: ใจคือที่รองรับพระพุทธบารมี (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ กันยายน 08, 2010, 03:27:11 PM ใจคือที่รองรับพระพุทธบารมี (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) ใจที่สกปรกจนเกินไป ใจมีกิเลสโลภโกรธหลงท่วมท้น จนไม่มีที่สำหรับรองรับพระพุทธบารมี มีที่เพียงน้อยนิดสำหรับความเคารพเทิดทูนสมเด็จพระบรมศาสดา ปฏิเสธคำทรงสอนยิ่งกว่าเป็นสิ่งไร้ค่า ได้อ่านก็สักแต่ว่าได้อ่าน ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ไม่ให้ความสำคัญเพียงพอที่จะทำให้รู้สึกว่าคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดามีความสำคัญให้สิริมงคลสุงสุดแก่ชีวิต คำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาที่ให้ผลยิ่งใหญ่เหนือคำสอนใดๆ ปรากฏให้เห็นอยู่แล้ว การเกิดที่ทำให้ต้องพบความทุกข์นานาประการของความแก่ความเจ็บความตาย คำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา ก็ทำให้ท่านผู้ปฏิบัติตามพ้นการเกิดได้ เป็นที่เชื่อกันอยู่ ว่าท่านทั้งหลายนั้นคือที่รู้จักกันว่าท่านคือ พระอรหันต์ ที่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาจำนวนไม่น้อยเคารพเทิดทูนท่าน จะใช้คำว่าตื่นเต้นภูมิใจที่จะได้เข้าไปกราบไหว้ฟังคำสนทนาปราศรัยของท่าน ก็ไม่ผิด พวกเราทุกคนเมื่อมีข่าวว่าท่านพระอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็จะดีใจจะภูมิใจจะมั่นใจในสิริมงคลที่จะได้รับจากการได้เข้าไปเป็นศิษย์สนทนาปราศรัยกับท่าน ตื่นเต้นภูมิใจเป็นที่สุดที่ท่านสอน ที่ท่านพูดท่านคุยด้วย ความรู้สึกนี้เป็นมงคล และจะเป็นมงคลสูงสุดแก่ชีวิต แม้จะคิดได้ด้วย ถึงพระผู้ทรงเป็นสมเด็จพระบรมครูผู้ทรงสอนให้เกิดความเป็นพระอรหันต์ ไม่มีคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมครู ไม่มีผู้ปฏิบัติตามคำทรงสอน พระอริยะทั้ง ๔ ระดับก็ไม่เกิด ทั้งพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ทุกองค์พระอริยสงฆ์ดังกล่าว ท่านเคารพเชื่อมั่นในสมเด็จพระบรมศาสดา ทรงสอนทางดำเนินไปสู่ความพ้นทุกข์ไว้อย่างไร พระสงฆ์ที่ยังเป็นเพียงกัลยาณปุถุชน หรือเป็นเพียงสงฆ์สามัญ มิใช่อริยสงฆ์แต่ด้วยการมุ่งมั่นปฏิบัติ ตามพระธรรมคำทรงสอนในสมเด็จพระบรมศาสดา ก็ดำเนินไปตามทางที่ทรงแสดง ด้วยใจที่มั่นในความทรงเป็นสมเด็จพระบรมศาสดา ที่เหนือมนุษย์เหนือพรหมเทพมากมี และก็ไม่ปรากฏว่าความเทิดทูนยิ่งชีวิตจิตใจ ที่ท่านพากันมีต่อละลองพระพุทธบาทไม่ทำให้เกิดความผิดหวังแก่ท่านผู้ใดแม้แต่น้อย อำนาจของใจที่ทำให้เกิดอริยบุคคลและพระอริยสงฆ์ โดยเสด็จสมเด็จพระบรมศาสดามาตั้งแต่ยังอยุ่ในสมัยที่สมเด็จพระบรมศาสดายังทรงดำรงพระชนมายุสังขารอยู่ มาจนถึงยุคสมัยนี้ที่เสด็จขันธปรินิพพานแล้วถึง ๒๕๕๐ ปี และจะต่อไปอีกนานเท่าไรก็ได้ ที่อำนาจของใจที่มีศรัทธามั่นในคำทรงสอนของสมเด็จพระบรมศาสดา จะยังก่อให้เกิดอริยบุคคลและพระอริยสงฆ์ได้อีก อำนาจใจเป็นใหญ่ได้ทุกยุคทุกสมัย แต่ความยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ของอำนาจใจ ต้องสำคัญที่ความดีความไม่ดี ใจจะไม่มีอำนาจตามลำพัง อำนาจความดีจะทำให้ใจดี และใจที่ดีจะให้เกิดผลสำเร็จที่ดี อำนาจความไม่ดีจะทำให้ใจไม่ดี และใจที่ไม่ดีจะให้เกิดผลสำเร็จที่ไม่ดี ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจเป็นไปเช่นนี้ ไม่มีเป็นไปอย่างอื่น : แสงส่องใจ วันอาสาฬหบูชา ๒๕๕๐ : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขอบคุณธรรมจักรดอทคอม |