หัวข้อ: วิปัสสนาคืออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ มีนาคม 29, 2012, 02:26:34 PM
วิปัสสนาคืออะไร
โดยหลักการแล้ว วิปัสสนาเป็นชื่อของปัญญา และปัญญานี้จะต้องรู้หรือเห็นรูป-นามไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนเท่านั้น ถ้าปัญญารู้อย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว เช่น เห็นพระพุทธเจ้า เห็นสวรรค์ เห็นนรก หรือเห็นอื่น ๆ อะไรก็ตาม การรู้เห็นเช่นนั้นไม่ชื่อว่า วิปัสสนา
อารมณ์ของวิปัสสนาได้แก่อะไรบ้าง
เมื่อหลักการของวิปัสสนากล่าวว่าเป็นปัญญาที่เห็นสภาวะ รูป-นาม หรือขันธ์ ๕ เป็นไตรลักษณ์แล้ว การเจริญวิปัสสนาจะต้องดู หรือจะต้องพิจารณา อะไรจึงจะเห็นไตรลักษณ์ ก็ต้องดูหรือต้องเพ่ง รูป-นามเป็นอารมณ์ ถ้าดูอย่างอื่นก็จะไม่มีเหตุผลพอที่จะรู้หรือเห็นสภาวะของชีวิตตามความเป็นจริง
ประโยชน์ของวิปัสสนามีอย่างไร
ประโยชน์เบื้องต้น คือ ทำลายความเห็นผิดที่เห็นรูป-นามว่างาม เที่ยง เป็นสุข เป็นตัวตน และประโยชน์ในที่สุดทำให้ถึงสันติสุขคือพระนิพพาน
ธรรมะที่เป็นอุปการะแก่วิปัสสนามีอะไรบ้าง
ในการเจริญวิปัสสนานั้น อาศัยหลักการในสติปัฏฐาน ๔ และมี ธรรมอันเป็นอุปการะที่ต้องเข้าร่วมประกอบกับวิปัสสนา คือ วิปัสสนาภูมิ ๖ ญาณ ๑๖ วิปัสสนาญาณ ๙ และวิสุทธิ ๗ เป็นต้น
ฉะนั้น การทำความเข้าใจในหัวข้อทั้ง ๔ ประการข้างต้น จึงเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับผู้เริ่มปฏิบัติที่จะใช้ตรวจสอบแรงจูงใจของตนเองว่า ดำเนินไปถูกทาง หรือไม่ ผู้ปฏิบัติควรจะต้องรู้ ต้องเข้าใจในหลักการเหตุผลโดยแน่นอนเสียก่อน มิฉะนั้นอาจทำไปอย่างผิด ๆ เพราะไม่เข้าใจหรือหลงผิดได้
โดยหลักการแล้ว วิปัสสนาเป็นชื่อของปัญญา และปัญญานี้จะต้องรู้หรือเห็นรูป-นามไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตนเท่านั้น ถ้าปัญญารู้อย่างอื่นนอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว เช่น เห็นพระพุทธเจ้า เห็นสวรรค์ เห็นนรก หรือเห็นอื่น ๆ อะไรก็ตาม การรู้เห็นเช่นนั้นไม่ชื่อว่า วิปัสสนา
อารมณ์ของวิปัสสนาได้แก่อะไรบ้าง
เมื่อหลักการของวิปัสสนากล่าวว่าเป็นปัญญาที่เห็นสภาวะ รูป-นาม หรือขันธ์ ๕ เป็นไตรลักษณ์แล้ว การเจริญวิปัสสนาจะต้องดู หรือจะต้องพิจารณา อะไรจึงจะเห็นไตรลักษณ์ ก็ต้องดูหรือต้องเพ่ง รูป-นามเป็นอารมณ์ ถ้าดูอย่างอื่นก็จะไม่มีเหตุผลพอที่จะรู้หรือเห็นสภาวะของชีวิตตามความเป็นจริง
ประโยชน์ของวิปัสสนามีอย่างไร
ประโยชน์เบื้องต้น คือ ทำลายความเห็นผิดที่เห็นรูป-นามว่างาม เที่ยง เป็นสุข เป็นตัวตน และประโยชน์ในที่สุดทำให้ถึงสันติสุขคือพระนิพพาน
ธรรมะที่เป็นอุปการะแก่วิปัสสนามีอะไรบ้าง
ในการเจริญวิปัสสนานั้น อาศัยหลักการในสติปัฏฐาน ๔ และมี ธรรมอันเป็นอุปการะที่ต้องเข้าร่วมประกอบกับวิปัสสนา คือ วิปัสสนาภูมิ ๖ ญาณ ๑๖ วิปัสสนาญาณ ๙ และวิสุทธิ ๗ เป็นต้น
ฉะนั้น การทำความเข้าใจในหัวข้อทั้ง ๔ ประการข้างต้น จึงเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับผู้เริ่มปฏิบัติที่จะใช้ตรวจสอบแรงจูงใจของตนเองว่า ดำเนินไปถูกทาง หรือไม่ ผู้ปฏิบัติควรจะต้องรู้ ต้องเข้าใจในหลักการเหตุผลโดยแน่นอนเสียก่อน มิฉะนั้นอาจทำไปอย่างผิด ๆ เพราะไม่เข้าใจหรือหลงผิดได้
หัวข้อ: วิปัสสนาคืออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 04, 2012, 08:11:29 PM
ตามหลักการในตำราถูกมากๆ ความเป็นจริงใกล้เคียง
หัวข้อ: วิปัสสนาคืออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 11, 2012, 08:33:25 PM
ขออภัยท่านผู้รู้...กระผมเป็นเด็กใหม่..แต่มีหัวใจเป็นชาวพุทธรุ่นใหม่ จึงมีความเห็นแตกต่างหลากหลาย ก็อยากเห็นชาวพุืธทั้งหลายเปิดใจให้กว้างมากขึ้น ..ดีกว่าเราจะมองแต่มุมเดิมหรือตำราเดิมๆในมุมอรรถฐาจารย์ ( หรือคำแปล คำสอนเดิมๆของครูบาอาจารย์ )ผมไม่ถกเถียงหรอกครับว่าคำสอนของท่านเหล่านั้นผิด แม้แต่คำบอกสอนของเขาทั้งหลายเหล่านั้นในปัจจุบัน ทุกอย่างมีประโยนช์ต่อสังคมและผู้เป็นมนุษย์ทุกคนครับ...เพื่อประโยชน์ในการดับทุกข์ ... ตามคติของชาวพุทธ ซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดของชาวพุทธและสัตว์โลกทั้งหลาย มันจะต่างกันก็แค่ความเห็นต่างมุมมอง ที่ใช้แล้วมันสอดคล้องกับวิถีชีวิของคนส่วนมากในปัจจุบัน ที่กำลังดำรงค์ชีวิตอยู่ตามสภาพแหวดล้อมที่เป็นจริงกับชีวิตของเขา ที่รวดเร็วและเชื่องช้า ก็เป็นเพียง ประโยค ที่สร้างขึ้นเปรียบเทียบ เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้เห็นความต่างในคำแปลปัจจุบันและทิฎฐิ ก็เท่านั้น ไมีเจตนาลบหลู่ผู้รู้ทั้งหลายดอก การที่เราเป็นชาวพุทธ( ที่แปลว่า ชาวผู้รู้ ผู้ตื่น ทั้งหลาย ) ก็ควรจะมีิวิจารณญาญใช่หรือไม่ครับท่านเด็กวัด ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม...สัมมาทฎฐิ...
หัวข้อ: วิปัสสนาคืออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ พฤษภาคม 01, 2012, 10:17:23 PM
สมาธิของผมนั้นก็แค่ตั้งมั่นในมุมมองที่มั่นใจ ส่วนวิปัสสนาเล่า ก็แค่ใช่มุมมองให้เป็นประโยนช์ต่อชีวิตในปัจจุบัน ไม่ให้เกิดคุณและโทษ ส่วนกรรมฐานนั้น ก็แค่มั่นใจอย่างแน่วแน่ในมุมมองของตน ที่สอดค้ลองกับเรื่องทุกเรื่องได้ โดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง.. จิตคือพุทธะ พุทธะก็คือจิต .....สัมมาทิฎฐิ....
หัวข้อ: วิปัสสนาคืออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: สันต์ ธรรมะ ที่ มิถุนายน 07, 2012, 11:46:53 PM
เริ่มต้นกันใหม่ตาแบบที่พระพุทธเจ้า แนะนำดีหรือไม่ครับ เราจะได้ไม่หลงทาง
http://www.dharma-of-buddha.blogspot.com/2012/06/blog-post_07.html (http://www.dharma-of-buddha.blogspot.com/2012/06/blog-post_07.html)
http://www.dharma-of-buddha.blogspot.com/2012/06/blog-post_07.html (http://www.dharma-of-buddha.blogspot.com/2012/06/blog-post_07.html)