สนทนาธรรม ฟังธรรม อ่านธรรมะ บทความธรรมะ หลักธรรมคำสอน กฎแห่งกรรม dhamma

ธรรมะออนไลน์ => บทความธรรมะ => ข้อความที่เริ่มโดย: ประวิต ที่ มกราคม 24, 2013, 09:04:41 PM



หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มกราคม 24, 2013, 09:04:41 PM
ต้องใช้กาลเวลาเป็นบทบอกเล่า..บอกตัวเราเอง..และเล่าสู่กันฟัง..เพราะเวลาเปลี่ยน..อารมณ์มันก็เปลี่ยน...กว่าวันข้างหน้าจะมาถึง
กว่าอารมณ์ที่แท้จริงจะก่อเกิดจากประสพการณ์ชีวิตที่แท้จริง....อารมณ์ใหม่และอารมณ์เก่า....ก็ยังวนเวียนหลอนหลอกเราอยู่ดี..
...........ฉนั้นต้องใจเย็นๆ...นะครับพี่น้อง.....ใคร่ครวญให้ดีๆ  ใคร่ครวญไปเรื่อยๆ....และกระทำไป....


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มกราคม 26, 2013, 09:21:09 PM
อารมณ์ ที่วนเวียน  มันไม่ต่างจากจินตนาการดีๆ ของคนที่มีจินตนาการที่มีอารมณ์ เป็นอารมณ์ของจินตนาการ หรือมโนนึก-แม้ไม่รู้-ว่าเราหลงในทิฎฐิ-เพียงแค่ทิฎฐิเดียว---ผู้รู้ที่แตกฉานในความรู้--ที่มันครอบคลุมทิฎฐิร้อยแปด--หรือทิฎฐิ62ประการ--สงสารในตะบะพตของเขาเหล่านั้น-(มันน่าขำสำหรับกระผม  ที่มองเห็นการกระทำ และการแสดงออกในมุมมองของทิฎฐิแ่ห่งตน  ของคนที่มีทิฎฐิ  ทิฎฐิของคนที่นับถือศาสนาพุทธอย่างนั้น 
อย่างที่เขาได้แสดงออกกัน  มันช่างหน้าสงสาร  ผู้ที่เป็นศาสดา  ที่ทำความเพียรและสั่งสมบารมีในการบำเพ็ญพต  เพื่อประกาศศาสนา เยี่ยงโพธิสัตว์  ที่คิดที่ดำริ ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงสุดท้ายแห่งการทำประโยชน์)


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มกราคม 29, 2013, 09:01:51 PM
 ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงสุดท้ายแห่งการทำประโยชน์--ผู้ที่ทำประโยชน์--ที่คิดเยี่ยงโพธิสัตว์--นั้นคือหลักเมตา--และความการุณาปราณี--ผู้ที่เดินทางๆนี้  ต้องเข้าใจใหลักธรรมเสียก่อน--ว่าแม้น้ำ84000สายนั้น--ที่ไหลลงสู่ทะเลฉันใดในที่สุด--หลักธรรมก็ฉันนั้น--นำพามวลมนุษย์ให้หมดทุกข์ได้ในที่สุด เท่าที่เขารู้ว่าเขามีทุกข์และเป็นทุกข์  และพยายามที่จะแสวงหาทางที่พ้นทุกข์--แม้แม่น้ำแต่ละสายมีความคดเคี้ยวไม่เหมือนกัน--แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน
สำหรับผู้เดินทางและแสวงหาทางหรืิอผู้ที่กำลังปฎิบัติในทางๆนี้อยู่--อย่าวิจารณ์ให้มากในทางๆนี้--อย่าแสดงในทิฎฐิแห่งตนให้มาก--ผู้ที่แสดงมากนั้นยังไม่เข้าใจในแนวทางที่แท้จริง--ของแม้น้ำ--ได้แต่พากันวิจารณ์--และแสดงความหลงแห่งตน--จนพาผู้อื่นหลงทาง--หลงในทางๆที่ควรเดิน--เพราะทิฎฐิแห่งตน--------------ยิ่งในสายทางๆนี้ของวันเวลานี้---บางกลุ่มถึงกลับเพี้ยนหนัก--ระดมพลเพี้ยนพากันทำในทางๆที่มันเพี้ยนมากขึ้น----ไม่ข้าใจเอาเสียเลย---บอกอะไรก็ไม่ฟังดื้อดึงว่าทางแห่งตนทิฎฐิแห่งตนนั้นถูกต้อง---จะสอนเบาๆเอาบุญนะครับ---ค่าเครื่องบิบนั้นไม่แพงหรอกท่าน---พอเครื่องบิน--มันบินขึ้นสูงๆลองมองลงข่างล่างบ้างซิ---แม่น้ำแต่ละสายนั้นมันคดเคี้ยวเหมือนกันซะที่ไหน---บางสายมันต้องมุดลอดใต้ภูเขาหรือถ้ำ--ยาวเป็นกิโลกว่าจะโผล่ออกมา--แล้วยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะใหลลงสู่ทะเล---มาถึงปากทะเลแล้วยังต้อมาสู้กับแรงโน้มถ่วงของทะเลอีก--ไหนจะน้ำเก่าไหนจะน้ำใหม่--ไหนจะอาศัยเวลากว่าจะผสมผสานเป็นน้ำเดียวกันได้--ลองคิดดูบ้างเถอะท่านสหมองฝ่อ--บ้าอยู่ได้  กับจินตนาการแห่งทิฎฐิของตน--(วันใดท่านไม่รู้อะไรเลย...วันนั้นท่านจะเข้าใจในทะเล).....สัมมาทิฎฐิ-นิพพาน...


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2013, 08:07:51 PM
สูงสุดคืนสู่สามัญ   เป็นบทความที่เป็นสัจจะหนึ่งโดยความรู้จริงที่เกิดจากการใคร่ครวญ   เป็นอารมณ์หนึ่งเช่นเดียวกัน  อารมณ์ที่เป็นอารมณ์  ที่คนยังไม่ถึงของความแยบคายพอในการพิจารณา ( ไม่ซึ่งจนน้ำตาไหล ) พอที่จะเรียกเป็นอารมณ์ได้  เพราะสิ่งนั้นเรายังเรียกว่า ( วิตก  วิจารณ์อยู่ ) มันเป็นอารมณ์หยาบอยู่  นะครับท่าน...........สัมมาทิฎฐิ...


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2013, 09:12:50 PM
ความคิด-ความรู้-สังขาร-อารมณ์-สิ่งเหล่านี้คือ-มิฐฉาทิฎฐิและสัมาทิฎฐิ-สองสิ่งนี้มีเหมือนกันและเป็นสิ่งเดียวกัน-จะแตกต่างกันก็เพียงอารมณ์-ที่เสวยในความรู้-หรือความคิด-หรือสังขาร-ที่ปรุงแต่งในขณะนั้น-อารมณ์ที่เสวยในขณะจิตปรุงแต่งจะแตกต่างกันออกไป--คิดหรือปรุงอย่างมีตัวตนแบบบ้าคลั่ง-เขาเรี๊ยกว่าพวกคนชั้นต่ำ-ที่คิดและปรุงแบบบ้าตามกิเลส-ตัณหา-อุปาทานแห่งตน--คิดอย่างมีความรู้-ที่ร่ำเรียนมา-และได้คิดใคร่ครวญดีแล้ว-แต่ก็ยังบ้ากับอารมณ์ของความคิดอยู่--พวกนี้คนชั้นกลาง--คิดในความรู้ที่ร่ำเรียนมาโดยแยบคาย-หรือใคร่ครวญดีแล้ว-ทราบซึ้งแล้ว-จนมีสติ-บอกสอนตนเองได้ดี  และคอยเตือนตนเองอยู่เนืองๆ-ให้ทรงอารมณ์ ในความรู้ ความคิดแห่งตนได้--แต่ยังก้าวไม่ข้ามพ้นความมี หรือความเป็นได้--พวกนี้คือคนชั้นสูง--อะไรๆๆจะมี จะอยู่ หรือจะไป ในวันนี้เพลานี้--จะถูกหรือผิด--ดีหรือชั่ว--หรืออะไรก็ตาม--เขารู้อย่างมีสติและนิ่งเฉยได้บ้างตามสมควรแห่งครรลอง--เขาคืออริยะบุคลที่กำลังเดินทาง..............สัมมาทิฎฐิ........


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2013, 10:33:20 PM
อารมณ์ที่พรั่งพรูออกมา จากความคิด ความกลั่นกลองของจิตสำนึกที่ขาดการยับยั้ง ไหลมาเทมาตามสภาพของอารมณ์ในขณะที่เราพูด ไม่ว่าจะเป็นด้วยกาละเทสะใดที่พยายามที่จะมาพูด ที่พยายามที่จะแสดงออก ด้วยวาจาต่างๆนาๆ มันเป็นอารมณ์หยาบทั้งสิ้น ..เป็นนิวรณ์...แม้ในหลักแห่งธรรมก็ไม่เว้น ............สัมมาทิฎฐิ..นิพพาน...


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กุมภาพันธ์ 25, 2013, 10:56:58 PM
อารมณ์ :) :) :) :) ;) ;) ;) :D :D :D ;D ;D ;D >:( >:( >:( >:( :( :( :( :o :o :o :o 8) 8) 8) 8) ??? ??? ??? ??? ::) ::) ::) ::) :P :P :P :P :-[ :-[ :-[ :-[ :-X :-X :-X :-\ :-\ :-\ :-\ :-* :-* :-* :-* :'( :'( :'( :'( :'( :'(เหล่านี้คือความเป็นจริงครับท่านสาธุชนผู้เจริญ)  ความตรึกตรอง  ความใคร่ครวญทั้งหลายแม้ในธรรมอันปรานีตทั้งปวง  ก็ยังเป็นอารมณ์อยู่.......ความคิดที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ที่แสดงออกในบทบาทต่างๆนา  เช่นอารมณ์ของรูปต่างๆ  เหล่านี้คืออารมณ์พื้นฐานของมนุษย์  ที่แสดงออกโดยปรกติตามธรรมชาติของมนุษย์   ตามครรลองของจิตที่มี  และเป็นพื้นฐานเิดิมของอารมณ์  จะจำแนกเป็นประเภทใดๆ  ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรมนั้นๆ อันพิจิตพิสดาร  ใดๆก็ดี  ก็ยังเป็นพื้นฐานเดิมๆ ของชีวิตและความเชื่อนั้นๆ  ที่วิตกวิจารณ์  กันไป  ตามจินตนาการ  หรือหลักธรรมที่เราเรี๊ยกว่าทิฎฐิ ..... ความนิ่งในอุเบกขารมณ์.....ที่มีปัญญาหนึ่่งดวง  ตามปรกติของความไม่มีอะไรอันเป็นฐานที่มั่นดั่งเดิมของชีวิต.....อารมณ์นี้จะค่อยๆไต่ระดับขึ้นตามเหตุตามผลเรื่อยๆ  ค่อยๆไต่ขึ้นไป  อยู่เหนืออารมณ์ของเหตุและผลของชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ........เมื่อมั่นคงเหตุผลก็กลายเป็นเรี่องธรรมดาปรกติของโลกแห่งชีวิตทั้งปวง....................สัมมาทิฎฐิ  และ  นิพพาน


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มีนาคม 09, 2013, 09:37:32 PM
คนทุกคนย่อมีอารมณ์ตามครรลองของชีวิต  จะอารมณ์แบบใดชนิดใด  มันก็คืออารมณ์
ความอดทน  อดกลั้น แม้ครั้งเดียวที่เราทำ  จะรู้ธรรมมะ  หรือไม่รู้ธรรมมะ  มันคือการปฎิบ้ติธรรมชั้นเลิศ  ลองคิดดูท่านผู้ธรรมมะดีทั้งหลาย..
..........สัมมาทิฎฐิและนิพพาน..


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ พฤษภาคม 24, 2013, 08:53:05 PM
ปลงด้วยความรู้สึกที่พิจารณาดีแล้ว...หรือปลงด้วยใจ...อันไหนดีกว่ากัน...ถาม...ตอบ...ปลงด้วยใจดีกว่า...เพราะเป็นความรู้สึกที่รับรู้จากการพิจารณาอันแยบคาย..........ความรู้ทั้งปวงก็ยังเป็นแค่ทิฐิหนึ่ง.....ไม่สู้..ปลงได้ด้วยใจ...และรู้อย่างอุเบกขาเลย....รู้หมื่น..กับรู้หนึ่ง....สัมมาทิฐิและนิพพาน


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มิถุนายน 07, 2013, 09:50:37 PM
เขียนได้ดี


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: วารินทร์ ที่ สิงหาคม 05, 2013, 06:18:28 PM
ดีจัง ขอบคุณน่ะค่ะ


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ สิงหาคม 14, 2013, 09:59:33 PM
ขึ้นชื่อว่าอารมณ์  ไม่ว่ามันจะเป็นประเภทใดๆในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่  ในทางโลกหรือทางธรรมก็ตาม  ล้วนแล้วเราต้องระวังมันครับ  เพราะมันยังซ่อนทิฎฐิของเราอยู่  มันพร้อมจะหลอกหลอนให้เราหลงทางได้เพียงแค่เสี้ยววินาทีครับ......สัมมาทิฎฐิ และ นิพพาน................


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: รันตา ที่ สิงหาคม 29, 2013, 03:30:24 PM
ชอบเลยแบบนี้


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กันยายน 22, 2013, 08:09:30 PM
  เขียนเมื่อวันพระที่ผ่านมา....จึงมาตามครรลอง
.....................................เห็นการแสดงออกในอารมณ์ของคนทั้งหลาย  ในยุคปัจจุบันนี้แล้วเราเองก็รู้สึกเหนื่อย ทิฎฐิหรือก็มากมายคณานับ ยิ่งทิฎฐิมาก อารมณ์ก็มาก  เราจะบอกเขาอย่างไรว่า ความเป็นจริงนั้นมันไม่มีอะไรเลย ซักสิ่งเดียวในโลกนี้ ที่เราจะจับต้องมันได้จริงๆ เราหลอกหลอนให้เรา เราออกวิ่งไขว่ขว้า ไปตามอารมรมณ์ของจินตนาการของเรา ตามจิตสำนึกและความเชื่ออย่างนั้นของเรา  แล้วเราจะขว้าอะไรได้เล่าดั่งปรารถนาละพี่น้อง คนแบกนุ่นฝ่าสายฝนมีแต่จะหนักไปข้างหน้าเรื่อยๆ  ไม่ต่างจากคนจำอวดที่มีความคิดเห็นอันเป็นจำนวนมาก ย่อมวิ่งวนเวียน เที่ยวแบกนุ่นที่ชุ่มน้ำ แล้วบอกเพื่อนพ้อน้องพี่ง ฉันไม่หนักๆๆๆตลอดไปตามหนทางแห่งอารมณ์ของเขา  ถ้าเรารู้ว่าเราแบกนุ่นที่ชุ่มน้ำมันก็คงดี ใช่หรือดเปล่าครับท่านผู้เจริญ...สัมมาทิฎฐิและนิพพา


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ ธันวาคม 13, 2013, 10:06:22 PM
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตาม อันนี้ถ้าจะเป็นจริง เวลาที่มนุษย์นั้นมีอารมณ์ ไม่ว่าทางใดๆ ตัวเองคือผู้ที่ถูกต้องที่สุด นี่แหละคือมิจฉาสติ สิ่งที่คิดออกมาก็เป็นอารมณ์ของกู โดยที่กูไม่สนเหตุผลใดๆ ท่านทั้งหลายว่าจริงมัย ถ้าจริง ( เราต้องเตือนตนให้เลิก กระทำเยี่ยงนี้ นี่และคือการประฎิบัติธรรมชั้นเลิศ )
ไม่ต้องรู้อะไรมาก....สัมาทิฎฐิ และ นิพพาน


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ มีนาคม 23, 2014, 10:30:28 PM
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตาม อารมณ์นั้นเป็นตัวร้ายที่คอยขวางกั้น การทำความดีต่างๆ..มันจริงนะ..สังเกตุดูซิ


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 08, 2014, 10:21:10 PM
อารมณ์มาก  ทุกอย่างก็มากตามไม่ว่าทางใดๆ ทิฎฐิก็มากตาม ความสำคัญตนก็มากขึ้น ความกลั่นกลองของจิตสำนึก ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจหรือก็ไม่มี  ความรู้สึกที่เป็นอารมณ์หยาบๆก็ไหลมาเทมาตามสภาพอารมณ์ของจินตนาการที่ขาดสำนึก..เราไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำไปว่า นี่คืออารมณ์ ของโลกหรือธรรม..สติขณะนั้น..(คือกูแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าเราจะคิดหรือพูด หรือกระทำอะไรอยู่...กูๆๆๆๆๆๆๆๆ..นี่แหละพี่น้องอารมณ์มันเป็นอย่างนี้แหละ..มืดคือมิตร....555...สัมมาทิฎฐิ-และนิพาน


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 18, 2014, 09:26:51 PM
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตาม อันนี้ก็เช่นกัน.........ย้อนยุคกลับไป20ที่ผ่านมา..ผู้คนทั้งหลายอยู่กันด้วยความมีเมตา โอบอ้อมอารีย์ มีน้ำใจ มาในปัจจุบันนี้ คนทั้งหลายอยู่ด้วยอารมณ์ ของตัวกู ของกู เป็นจำนวนมาก 90เปอร์เซ็นเลยทีเดียว ความยึดมั่นถือมั่นก็มากๆๆๆขึ้น ความยึดมั่นมากขึ้นอารมณ์ก็มากตาม ต่างคนต่างไม่เคยที่จะยอมใคร แค่เหยียบเท้ากัน ก็ยิงกันตาย เวลาที่มนุษย์นั้นมีอารมณ์ ไม่ว่าทางใดๆ ตัวเองคือผู้ที่ถูกต้องที่สุด ตรองให้ดีนะครับว่ามันจริงหรือเปล่า..ถ้าจริง เราพร้อมที่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้หรือเปล่าเอ๋ย...โลกร้อนเพราะเรือนกระจก นั่นยังมีธรรมชาติอย่างอื่นคอยบำบัด..แต่โลกร้อนเพราะอารมณ์นี้ ใครจะช่วยบำบัดเล่า ในยามนี้เพลานี้ คนที่เข้าวัดก็ดี หรือผู้ที่ทำหน้าที่ธรรมะบุตรนั้นย่ิ่งมีน้อย วัดวาอารามต่างๆก็แข่งกันสร้าง แข่งกันเทศน์ หาแต่เงิน มอมเมาชาวพุทธด้วยบุญ ด้วยลาภ ผู้คนก็เต็มไปด้วยอารมณ์ของความอยาก คนที่จะน้อมหลักธรรมของการปลงนั้นก็มีน้อยขึ้น นี่แหละอารมณ์ รู้แล้วช่วยกันประยัดอารมณ์หน่อยนะครับอย่าใช่มันเปลืองมากเกินไป โลกก็จะหายร้อน สังคมก็จะร่มเย็นมากขึ้น....สัมมาทิฎฐิและนิพพาน...


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 23, 2014, 07:10:09 PM
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตาม.....อารมณ์ทำให้คนเรานั้นหูตาบอดสนิท..ไม่เชื่อสังเกตุดูซิ..ว่าอะไรคืออารมณ์..ปู่ย่าตายายพ่อแม่บอกมันว่าผิด..ผิดที่ไม่ฟังมันบ้าง..นี่แหละอารมณ์พุทธโถ่..กว่าจะรู้สึกตัว อีกที เกือบฉิบหายแล้ว.............ผู้ปฏิบัติธรรมชั้นเลิศไม่ต้องรู้ธรรมมากหรอก..แค่ให้รู้จักสังเกตุ อารมณ์ของตน ไม่ว่าหัวดำ หรือหัวโล้น อารมณฺ์ที่มันเกิดขึ้นตามสำผัส ที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเรา ที่สำผัสรู้ แล้วลองกลั่นกลองแยกออก ออกจากคำว่าของกู ตัวกู กูดี กูถูก แล้วลองทำใจให้เป็นกลางๆบ้าง...รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ฝึกทำใจให้ลืม ให้เย็นบ้าง........นี่แหละครับพี่น้อง บุญกุศลชั้นเลิศ..ชั้นเทพจริงๆ..สงบจะเห็นเอง..มีความสุขจะเห็นเอง.เวลาจะตายก็จะไม่หลงสติ....สวรรค์เป็นเบื้องต้น..นิพพานเป็ที่สุด.....สัมมาทิฎฐิ และ นิพพาน


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กรกฎาคม 04, 2014, 10:24:14 PM
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตามอันนี้เป็นความจริงครับท่านผู้อ่าน หยุดอารมณ์ ลดอารมณ์ ข่มอารมณ์..นี่คือการปฏิบัติธรรมชั้นเลิศ นี่แหละทุกข์ กับสุข
หมดอารมณ์ก็นิพพาน..วันนี้มาแรง ต้อดๆๆ สมชายมันบอก55 มาแบบขำๆชิวๆไม่ได้แวะมาเสียนาน...อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตามอันนี้เป็นความจริงครับท่านผู้อ่าน หยุดอารมณ์ ลดอารมณ์ ข่มอารมณ์..นี่คือการปฏิบัติธรรมชั้นเลิศ..ไม่เชื่ออย่าลบหลู่..สัมมาทิฎฐิและนิพพาน..


หัวข้อ: อารมณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กรกฎาคม 22, 2014, 08:23:19 PM
อารมณ์มากทุกอย่างก็มากตาม.....อารมณ์ทำให้คนเรานั้นหูตาบอดสนิท..ไม่เชื่อสังเกตุดูซิ..ว่าอะไรคืออารมณ์..ปู่ย่าตายายพ่อแม่บอกมันว่าผิด..ผิดที่ไม่ฟังมันบ้าง..นี่แหละอารมณ์พุทธโถ่..กว่าจะรู้สึกตัว อีกที เกือบฉิบหายแล้ว.............ผู้ปฏิบัติธรรมชั้นเลิศไม่ต้องรู้ธรรมมากหรอก..แค่ให้รู้จักสังเกตุ อารมณ์ของตน ไม่ว่าหัวดำ หรือหัวโล้น อารมณฺ์ที่มันเกิดขึ้นตามสำผัส ที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเรา ที่สำผัสรู้ แล้วลองกลั่นกลองแยกออก ออกจากคำว่าของกู ตัวกู กูดี กูถูก แล้วลองทำใจให้เป็นกลางๆบ้าง...รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ฝึกทำใจให้ลืม ให้เย็นบ้าง........นี่แหละครับพี่น้อง บุญกุศลชั้นเลิศ..ชั้นเทพจริงๆ..สงบจะเห็นเอง..มีความสุขจะเห็นเอง.เวลาจะตายก็จะไม่หลงสติ....สวรรค์เป็นเบื้องต้น..นิพพานเป็ที่สุด.....สัมมาทิฎฐิ และ นิพพาน......วันนี้เปิดอ่านข้อความเก่าๆของตัวเองที่เขียนเอาไว้.....ท่านทั้งหลายครับสิ่งที่เขียนมันไม่ใช่จะเขียนโดยง่ายดายนะ..แต่อ่านข้อความเดิมๆที่ตนเคยเขียน..รู้สึกชอบตรงข้อความชุดนี้จริง.รู้สึกมันตรงดีและชัดเจน..ประโยคน้อยแต่ใจความชัด...อันนี้ขอชมตัวเองนะครับท่าน..

บทความและไฟล์ภาพ ในเว็บไซต์แห่งนี้อาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่ทีมงานคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ โดยที่เราจะให้เครดิตทุกครั้งที่นำมา หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ tumcomputer@hotmail.com ทางทีมงานจะได้นำบทความนั้นออกทันที ขอบคุณครับ


เว็บนี้จัดทำโดย นายสุรัตน์ ศรลัมภ์ และครอบครัว อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร และผู้มีพระคุณ

HTML Hit Counters