หัวข้อ: สัมมาทิฏฐิ.ภาค2 เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 08, 2014, 09:57:24 PM ;)มันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ในความเห็นของบุคลทั้งหลาย ในลุ๊คใหม่ มุมมองใหม่ของโลกปัจจุบัน โลกปัจจุบันนี้มันคืออะไรกันหนอ ความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ความทะเยอทะยานอยาก ความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ความเห็นว่าตัวฉันนั้นยิ่งใหญ่เสมอ ความไร้สำนึกและมีสำนึกสั้น และความอดทนอดกลั้นน้อยเหลือเกิน หรือแทบไม่เหลือเลย...ความเอาแต่ใจตนเอง ความเอาแต่ความรู้สึกของตนเองเป็นใหญ่อยู่เสมอมานั้นช่างสุดยอดจริงๆ แม้กะทั้งผู้อยู่ในแนวทางแห่งธรรม..แล้วความไม่เที่ยงละ และความไม่มีตัวตนที่แท้จริงเล่า.ใครเล่าจะถามถึง ใครจะครวญใคร่.....มุมที่เปลี่ยนไป.สัมมาทิฎฐิ-และนิพพาน
หัวข้อ: สัมมาทิฏฐิ.ภาค2 เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ เมษายน 23, 2014, 08:26:27 PM วันนี้ว่าจะเขียนต่อในบทความ รู้สึกความสงบของจิตเราเปลี่ยนไป...เลยของดนะครับพี่น้อง
หัวข้อ: สัมมาทิฏฐิ.ภาค2 เริ่มหัวข้อโดย: seamissiam ที่ พฤษภาคม 20, 2014, 02:14:53 PM น่าติดตามเหมือนกันนะครับ
หัวข้อ: สัมมาทิฏฐิ.ภาค2 เริ่มหัวข้อโดย: ประวิต ที่ กันยายน 18, 2014, 09:03:51 PM ขอยืมบทความของท่านเกียรติคุณหน่อยนะอ่านแล้วได้ใจ.................... - ธรรมารมณ์ไรๆที่เป็นอกุศลลามกทั้งปวง ย่อมเป็นไปในราคะ - ความกำหนัดในธรรมมารมณ์ ย่อมเป็นไปใน โลภะ โทสะ โมหะ - ธรรมมารรมณ์ใดๆอันประกอบด้วยโมหะทั้งหลาย เมื่อเสพย์เข้าไปย่อมหลงอยู่ฉะนั้น - โกรธจนลืมตัวขาดสติ เพราะมีจิตจดจ่อลุ่มหลงเสพย์กับอกุศลวิตกอันเป็นไปในพยาบาท - เมื่อมิจฉาสังกัปปะเข้าไป ในขณะใดขณะหนึ่งย่อมมีความโลภทำให้เพลินเพลินในอารมณ์ปรุงแต่งอันเร่าร้อนนั้นๆจนหลงลืมไม่รู้ทันอกุศลจิต ไม่รู้ตัวทั่วพร้อม - ความเพลิดเพลินไรๆอันดำเนินไป เมื่อเสพย์แล้วย่อมหลงลืมปัจจุบันขณะ มีจิตน้อมเสพย์ความเพลิดเพลินยินดีนั้นไปไม่รู้ตัว พระพุทธเจ้าจึงตรัสกับพระสารีบุตรว่า(ขอกล่าวโดยย่อ) ดูกร ! สารีบุตร ธรรมารมณ์ที่ควรเสพย์ และ ไม่ควรเสพย์ เป็นไฉน -ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้กุศลเสื่อมลง แล้วอกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆไม่ควรเสพย์ -ธรรมมารมณ์ใดที่เสพย์แล้ว ทำให้อกุศลเสื่อมลง แล้วกุศลเกิดขึ้น ธรรมมารมณ์นั้นๆควรเสพย์ |