หัวข้อ: ถ้าสวด -ท่องบทสวดมนต์ผิด...บาปหรือไม่??? เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหน้าวัด ที่ สิงหาคม 23, 2010, 09:12:43 PM ถ้าสวด -ท่องบทสวดมนต์ผิด...บาปหรือไม่??? ถ้าสวด -ท่องบทสวดมนต์ผิด...บาปหรือไม่??? ในประเด็นคำถามที่ว่า.... การที่เราสวดมนต์หรือท่องคาถาต่างๆ แล้วท่องผิดหรืออ่านคำบาลีไม่ถูกต้อง จะมีผลอย่างไร ? แล้วเราจะได้รับตามวัตถุประสงค์ของคาถานั้นหรือไม่ ? การสวดมนต์เป็นสิ่งที่ดี >>>...คือทำให้ใจของผู้สวดเป็นสมาธิ >>>...จิตผ่องใส มั่นคงมากขึ้น >>>...ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากที่เราจะลืมเสียไม่ได้ >>>...ก็คือ ช่วยอนุรักษ์คำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้ เพราะฉะนั้นในแต่ละวันการสวดมนต์โดยเปล่งเสียงออกมาจากลึกภายในใจ (หรือลองหาบทสวดมนต์บทต่าง ๆ มาฟัง แล้วเราเครียด กลุ้มใจ ไม่สบายใจ) การได้ฟัง ได้สวดบทมนต์นั้น ๆ ก็สามารถให้จิตใจเราผ่องใส เบาสบาย ได้เป็นอย่างดียิ่ง (อาตมาได้ปฏิบัติดู ได้ผลจริง ๆ) ฟังเพลง ดูหนังดูละคร บางครั้งก็ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกบ้าง แต่ก็ยังไม่ดีเท่ากับการได้สวดหรือฟังบทสวดมนต์ เพราะการสวดและการฟังได้บุญด้วย สำหรับเวลาสวดมนต์ต่างวัดต่าง ๆ ก็จะมีกำหนดเวลาแน่นอน เป็นกิจวัตรของสงฆ์ เช่น การทำวัตรเช้า ในเวลา ๐๕.๐๐ น. หรือเวลา ๐๘.๐๐ น. การทำวัตรเย็น ในเวลา ๑๘.๐๐ น. หรือเวลา ๑๗.๐๐ น. >>>...ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาของการบริหารออกกำลังภายในกาย >>>...ที่จะทำให้ช่วยบริหารระบบภายในได้อย่างดี >>>...จะได้ว่า...ส่วนใหญ่พระสงฆ์จะมีสุขภาพจิตดี >>>...เพราะได้ปฏิบัติตามหลักที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ ที่พวกเราได้มีหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาศึกษากันอยู่ตราบทุกวันนี้ ก็เพราะการสวดมนต์ของพระสมัยรุ่นแรก ๆ เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีการบันทึกเป็นหนังสือหรือตำราอย่างเช่นสมัยนี้ พระสมัยนั้น ท่านจึงต้องเรียนวินัย ข้อห้าม คำสอน และเรื่องราวต่าง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ ด้วยการท่องจำ ที่เรารู้จักกันว่า “มุขปาฐะ” คือ..ท่องจำโดยปากเปล่าอย่างขึ้นใจ นั่นเอง นี่จึงเป็นผลดีของการสวดมนต์ ขณะที่สวด ใจของผู้สวดเป็นสมาธิ >>>...ไม่วอกแวก ไม่ฟุ้งซ่าน >>>...ทำจิตใจให้สดชื่นเบิกบาน >>>...คลายความเครียดกังวลต่าง ๆ ลงได้ >>>>...สุขภาพจิตดีและยังสามารถลดอาการป่วยหรือโรคภัยบางอย่างได้ สาเหตุเพราะว่า... การสวดมนต์เป็นผลดีแก่ระบบของอวัยวะภายในร่างกายเรา เป็นการสัมพันธ์กันระหว่างการหายใจ การออกเสียงสั้น-ยาว เป็นจังหวะ >>>...หากเราสังเกตเวลาที่พระสวด >>>...แต่ละบทจะมีทำนองแตกต่างกัน >>>...บางครั้งช้า บางครั้งเร็ว >>>...ซึ่งเป็นการออกกำลังบริหารอวัยวะภายในได้อย่างวิเศษที่สุด >>>...ที่พระพุทธเจ้าของเราค้นพบวิธีนี้เป็นบุคคลแรก ส่วนการสวดผิด ท่องคำผิดนั้น มีวิธีแก้ไข คือ >>>...แรก ๆ ให้อ่านช้า ๆ อย่างถูกต้องก่อน >>>...ให้ชำนาญ ให้คล่องปาก >>>...และใส่ใจในการสวด มีสติกับการสวด >>>...หากไม่มั่นใจในคำสวดนั้น >>>...ก็ถามผู้รู้...ก็สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้.. สำหรับผู้ที่ยังสวดหรือท่องยังไม่ได้ ไม่คล่องปาก ก็ใช้วิธีดูหนังสือบทสวดก่อน ก็ไม่ผิดอะไร การดูหนังสือบทสวดมนต์ในขณะสวด ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรามีจิตใจจดจ่อเป็นสมาธิในบทสวดมนต์ และถ้าได้รู้ความหมาย แบบสวดมนต์แปลด้วย ยิ่งทำให้เราซาบซึ้งในอรรถรสทางภาษา และพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณของพระรัตนตรัยเป็นอย่างดีด้วย ส่วนการสวดมนต์/ท่องคาถาอย่างถูกต้อง และคล่องปาก ขึ้นใจ เป็นสมาธิ จิตแน่วแน่ จะทำให้เกิดผลดีต่อผู้สวดอย่างแน่นอน >>>...และถ้าเราปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนด้วย >>>...มีสติ ไม่ประมาท >>>...ก็จะทำให้มีอานุภาพเป็นอย่างดี การสวดมนต์ไม่ได้มีจุดมุ่งหมาย เพื่ออ้อนวอน ขอพร โดยที่ไม่ได้ลงแรง ลงมือทำ >>>...แต่การสวดมนต์จุดมุ่งหมาย คือ >>>...เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย >>>...และน้อมนำหลักธรรมคำสอนมาปฏิบัติต่างหาก >>>...และทำจิตใจของตนเองให้เป็นสมาธิ >>>...จิตแน่วแน่...อย่างแท้จริง >>>...นั้นคือ จุดมุ่งหมายของการสวดมนต์อย่างแท้จริง ส่วนผลจะเกิดอย่างไรนั้น... สิ่งที่ได้ทันที หรือทันตาเห็น หรือที่เรียกว่า ได้รับอานิสงส์จากการสวดมนต์ คือ ๑. ได้กล่าวภาษิตเป็นมงคล ๒. ได้ผลพัฒนาความจำ ๓. ได้ทำสติเจริญยิ่ง ๔. ได้จิตนิ่งเป็นสมาธิ ๕. ได้ผลิปัญญารู้เห็น ๖. ได้บำเพ็ญกุศลที่ถูกต้อง ๗. ไล่ความขี้เกียจ ๘. ตัดความเห็นแก่ตัว ๙. ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า ที่มา : สรรพธรรมนำสรรพากร..ธรรมะสวัสดี ฉบับที่ ๑๑๒ ขอบคุณบทความจาก ธรรมะ |