เกียรติคุณ
ผู้ปฏิบัติธรรม
พลังความดี : 65
เพศ:
อายุ: 46
กระทู้: 958
สมาชิก ID: 841
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2014, 11:34:05 AM » |
|
Permalink: สวดมนต์ เพื่อให้ถึงกรรมฐาน ๔ (พระปริตร)
มงคลปริตร หรือ มงตลสูตร
ใช้สวดเพื่อแสดงมงคลอันสูลสุดที่พระพุทธเจ้าตรัสบอกให้แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนและที่พักอาศัย
(หันทะ มะยัง มังคะละสุตตะคาถาโย ภะนามะ เส.)
- มงคลสูตรนี้ เป็นธรรมอันว่าด้วยการปฏิบัติชอบ เป็นทางเจริญแห่งมรรค คือ ประกอบด้วย ศีล ทาน ภาวนา เป็นสิ่งอันผู้ชื่อว่า มนุษย์และเททวดาทั้งหลายพึงทำ แม้เทวดาทั้งหลายก็เจริญปฏิบัติให้บรรลุบททั้ง ๓๘ ประการตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนมาเช่นนี้ๆ เมื่อเราผู้เป็นมนุษย์นั้นเจริญปฏิบัติกระทำในมงคลทั้ง ๓๘ ประการนี้ดีแล้ว ย่อมนำประโยชน์สุขมาให้แต่ตนเอง ครอบครัว และ คนรอบข้าง แลเมื่อละโลกนี้ไปแล้วย่อมได้ไปจุติในสุคติภูมิอยู่บนสวรรค์นั้น
เอวัมเม สุตัง อันข้าพเจ้า (คือพระอานนทเถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้, | เอกัง สะมะยัง ภะคะวา, สมัยหนึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า,
| สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน, เสด็จประทับอยู่ที่เชตวันวิหาร อารามของ | อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม, อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี,
| อะถะ โข อัญญะตะรา เทวะตา, ครั้งนั้นแล เทพยดาองค์ใดองค์หนึ่ง, | อะภิกกันตายะ รัตติยา, ครั้นเมื่อราตรีปฐมยามล่วงไปแล้ว,
| อะภิกกันตะวัณณา, มีรัศมีอันงามยิ่งนัก, | เกวะละกัปปัง เชตะวะนัง, ยังเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง,
| โอภาเสตะวา, เยนะ ภะคะวา เตนุปะสังกะมิ, พระพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ในที่ใด ก็เข้าไปเฝ้าโดยที่นั้น, | อุปสังกะมิตวา ภะคะวันตัง อะภิวาเทตวา, ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว จึงถวายอภิวาท พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว,
| เอกะมันตัง อัฏฐาสิ, ได้ยืนอยู่ในท่ามกลางส่วนข้างหนึ่ง, | เอกะมันตัง ฐิตา โข สา เทวะตา, ครั้นเทพยดานั้น ยืนในที่สมควรส่วนข้างหนึ่งแล้วแล,
| ภะคะวันตัง คาถายะ อัชฌะภาสิ, ได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคาถาว่า, | พะหู เทวา มะนุสสา จะ, หมู่เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก,
| มังคะลานิ อะจินตะยุง อากังขะมานา โสตถานัง, ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดหามงคลทั้งหลาย, | พรูหิ มังคะละมุตตะมัง. ขอพระองค์จงเทศนา มงคลอันสูงสุด.
|
(ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า)
อะเสวะนา จะ พาลานัง, การไม่คบคนพาลทั้งหลาย ๑, | ปิณฑิตานัญจะ เสวะนา, การคบบัณฑิตทั้งหลาย ๑, | ปูชา จะ ปูชะนียานัง, การบูชาชนควรบูชาทั้งหลาย ๑, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ,
| ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ, การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑, | ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา, การเป็นผู้มีบุญ อันทำแล้วในกาลก่อน ๑, | อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ, การตั้งตนไว้ชอบ ๑, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ,
| พาหุสัจจัญจะ สิปปัญจะ, การได้ฟังมาแล้วมาก ๑, ศิลปศาสตร์ ๑, | วินะโย ตะ สุสิกขิโต, วินัยอันชนศึกษาดีแล้ว ๑, | สุภาสิตา จะ ยา วาจา, วาจาอันชนกล่าวดีแล้ว ๑, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| มาตาปิตุอุปัฏฐานัง, การบำรุงมารดาและบิดา ๑, | ปุตตะทารัสสะ สังคะโห, การสงเคราห์ลูกและเมีย ๑, | อะนากุลา จะ กัมมันตา, การงานทั้งหลายไม่อากูล ๑, | เอตัมมังตะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ, การให้ ๑, การประพฤติธรรม ๑, | ญาตะกานัญจะ สังคะโห, การสงเคราะห์ญาติทั้งหลาย ๑, | อะนะวัชชานะ กัมมานิ, กรรมทั้งหลายไม่มีโทษ ๑. | เอตัมมังตะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| อาระตี วีระตี ปาปา, การงดเว้นจากบาป ๑, | มัชชะปานา จะ สัญญะโม, การเว้นจากการดื่มน้ำเมา ๑. | อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ, ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑. | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| คาระโว จุ นิวาโต จะ, การเคารพ ๑ การไม่จองหอง ๑, | สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา, ความยินดีด้วยของอันมีอยู่ ๑, การเป็นผู้รู้อุปการะ อันท่านทำแล้วแก่ตน ๑, | กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง, การฟังธรรมโดยกาล ๑, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| ขันตี จะ โสวะจัสสะตา, ความอดทน ๑, การเป็นผู้ว่าง่าย ๑, | สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง, การเห็นสมณะทั้งหลาย ๑, | กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา, การเจรจาธรรมโดยกาล ๑, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| ตะโป จะ พรัหมะ จะริยัญจะ, ความเพียรเผากิเลส ๑, ความประพฤติอย่างพรหม ๑, | อะริยะสัจจานะ ทัสสะนัง, การเห็นอริยสัจทั้งหลาย ๑, | นิพพานะสัจฉิกิริยา จะ, การทำพระนิพพานให้แจ้ง ๑, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จิตตัง, จิตของผู้ใด อันโลกธรรมทั้งหลาย | ยัสสะ นะ กัมปะติ, ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว, | อะโสกัง วิระชัง เขมัง, ไม่มีโศก ปราศจากธุลี เกษม, | เอตัมมังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด,
| เอตาทิสานิ กัตวานะ, เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย กระทำมงคลทั้งหลายเช่นนี้แล้ว, | สัพพัตถะ มะปะราชิตา, เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง, | สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ, ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง, | ตันเตสัง มังคะละมุตตะมัง, ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ของเทพยดา และมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นแล.
|
- เมื่อเราทำไว้ในใจเจริญระลึกในมงคลทั้ง ๓๘ ประการนี้มาเป็นที่ตั้งแห่งสติ ด้วยระลึกว่าพระตถาคตผู้เป็นสมเด็จพระบรมโลกนาถเจ้าตรัสสอนแก่ท้าวมหาพรหมให้เจริญปฏิบัติดังนี้และแม้เทวดาหมู่ใดทั้งหลายบนสวรรค์ทั้งปวงก็พึงกระทำให้บรรลุบทในมงคงทั้ง ๓๘ ประการนี้ ด้วยเหตุดังนี้เราก็ควรน้อมนำปฏิบัติเจริญในใจอยู่เนืองๆซึ่งมงคลทั้ง ๓๘ ประการนั้นแล้วกระทำออกมาทางกายและวาจา ย่อมถึงซึ่งอนุสสติ ๖ อันว่าด้วย "เทวตานุสสติ" และ ทำให้เราเข้าถึงซึ่งทางแห่งมรรค อันสืบเนื่องไปสู่ผล ที่พระโสดาบันเป็นต้นพึงกระทำให้บรรลุบท เมื่อมีชีวิตอยู่ก็ไม่ก้าวลงสู่สิ่งที่ชั่วและแม้เมื่อจะละโลกนี้ไปแล้วก็ไม่ก้าวล่วงสู่นรกย่อมขึ้นไปสู่แดนสุคติภูมิที่เหล่าเทวดาอาศัยอยู่ด้วยประการฉะนี้
ขอขอบคุณที่มาบทสวดมนต์แปลจากhttp://namthan01.blogspot.com/2013/07/blog-post.html
|