ประวิต
|
|
« เมื่อ: เมษายน 04, 2012, 08:46:43 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ความรู้อันถูกต้อง เป็นเพียงมุมมองที่เปลี่ยนไป ::)เข้าใจอย่างที่เราเข้าใจ ในความไม่มี และไม่เป็นจริง ในสิ่งที่เราเห็น และเรารู้สึกว่ามันเคยเป็น และเป็นอย่างนั้นมาก่อน.... นิพพาน....ค่อยว่ากัน.....ผมเองก็แสวงหาเพื่อนร่วมทางเช่นเดียวกัน....หากเพื่อนๆท่านใดสนใจเป็นเพื่อนเสวนา..คลิ๊ก...
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2013, 09:59:34 PM โดย ประวิต »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 05, 2012, 09:28:30 AM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ความเ้ข้าใจและมุมมองที่เปลี่ยนไปในความรู้สึกที่เคยมี เคยเป็นมาก่อน แปรสภาพเป็นความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่มีอยู่ และเป็นอยู่ ว่าไม่ได้มีอยู่จริง และเป็นจริงตามธรรมชาติเดิมของมัน (ไม่ใช่ความคิดไม่ใช่หลักการใดๆ) ความเข้าใจตัวนี้ให้สังเกตุจากความรู้สึกของเรา ทุกอย่างจะหยุดลง ความรู้สึกเริ่มปลงตกมากขึ้น จิตใจที่เร้าร้อนก็เย็นโดยธรรมชาติ ความสำคัญตนที่มีมากว่ารู้ว่าถูกว่าจริงจะเริ่มเลือนลาง เข้ากับอะไรก็ได้มากขึ้น ยอมและไม่ถกเถียงกับบุคลอื่นๆ ในเมื่อมันไม่มีอะไรเราจะถกเถียงไปทำไม สำคัญตนไปเพื่อประโยนช์อะไร ทำให้เป็นทุกข์เปล่าๆความรู้สึกเร้ารอ้นเปล่าๆ อยู่อย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ.... สัมมาทิฏฐิ.....
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 06, 2012, 11:08:15 AM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ตั้งมากมายความคิด ตั้งมากามายความรู้ ตั้งมากมายมุมมอง ตั้งมากมายความเชื่อ ตั้งมากมายในสิ่งที่รู้สึกว่าเป็นความจริง ตั้งมากมายที่เรารู้สึกต้องการ ตั้งมากมายที่เราปารถนา ตั้งมากมายของความรู้สึกที่เรารับรู้ ตั้งหลากหลายครูบาอาจารย์ และสิ่งสำคัญคือความรู้สึกว่าตัวเราชีวิตเรา....มันจึงยากเหลือเกินที่จะเข้าใจ....เมื่อมองเห็นของที่วางอยู่ ก็ย่อมรู้สึกว่ามันมีอยู่ เมื่อของตรงนั้นหายไป ก็ย่อมรู้สึกว่ามันหายไปและไม่มีอยู่ แค่เริ่มต้นก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้ว นั้นแหละจึงต้องสังวรณ์ จึงเป็นที่มาของการปฎิบัติสมาธิ ภาวนาไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อความคิดแน่วแน่จนกระจ่างบอกใครก็ไม่ได้จะพูดอย่างไรมันก็พูดไม่ถูก แล้วทุกอย่างก็เริ่มกระจ่างชัดตามวิถีของการเดินไปตามทางๆนี้ :-*มีกับไม่มี เป็นจริงกับไม่เป็นจริง ถูกกับผิด ใครจะไปรู้ตรงช่องว่างระหว่างกลางมันจะมีของดีซ่อนอยู่ อิๆๆๆ......สัมมาทิฎฐิ.....
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
man123
เด็กใหม่
พลังความดี : 22
เพศ:
อายุ: 29
กระทู้: 35
สมาชิก ID: 1324
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 07:00:13 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
สิ่งที่ทำให้ลดทุกข์ หรือนิพพาน ก็คือการวิปัสสนา คือการรู้ตามกายใจของเราไปเรื่อยๆใช่ป่าวครับ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 07, 2012, 09:08:22 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ตราบใดมุมมองของเรายังไม่เปลี่ยน ความกระจ่างชัดของธรรมชาติในตัวเรา ยังไม่ปรากฎแก่ความรู้สึกนึกคิดในตัวเราอย่างซาบซึ่งจนเราสลัดความรู้สึกมันออกจากห้วงของความคิดไม่ได้ การตามรู้ในวิถีแห่งกายใจก็เป็นการผูกพันในอัตตาอีกแบบหนึ่งเท่านั้น จะผ่อนคลายได้บ้างก็เพราะความรู้สึกของเรานั้นผูกติดในการกำหนด ไม่ส่งออกไปตามผัสสะอารมณ์และตามโมนนึก ทุกข์ที่เกิดจากอารมณ์เหล่านั้นจะผ่อนคลายและลดลงตามลำดับ แต่เราก็ไม่สามารถสลัดตัวออกจากวังวนได้ เผลอเมื่อไหร่มันก็ตามหลอนเราอีก ครับ....สัมมาทิฎฐิ...
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
man123
เด็กใหม่
พลังความดี : 22
เพศ:
อายุ: 29
กระทู้: 35
สมาชิก ID: 1324
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 10:07:52 AM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
แล้วการปฏิบัติที่ถูกหรือหลุดพ้นควรทำอย่างไรหรอครับ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 08, 2012, 10:45:02 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ตามหลักของความจริง โดยธรรมชาติเดิมๆของมัน ตามความเป็นธรรมชาติที่แท้จริงแล้ว...ไม่มีสิ่งที่ต้องหลุดพ้น หรือใครๆี่ต้องถูกกักขัง มันเป็นเพียง...ปฎิจสมุปบาท (สิ่งนี้มีสิ่งนี้ต้องมี ก็เท่านั้น) ฤาเป็นเพียงสิ่งที่อาศัยซึ่งกันและกันทำให้เกิดขึ้นก็เท่านั้นแล...แต่สิ่งที่ผันผวนก็คือ...สัตว์โลกที่มีเผ่าพันธ์เป็นมนุษย์ มีความจำที่มาก และผลิตผลของความจำก็ขยายความ เป็น...วิตก...วิจาร...หรือ...ระลึกและจินตนาการ .(ทุกข์) จึงมีเรื่องนั้น เรื่องนี้ให้เราต้องคบคิดตลอดเวลา.(ทุกข์).( มันเป็นเืรื่องจริงนะจ๊ะ....ที่ต้องมีการปฎิบัติแบบเชื่องช้า และเฉียบพลัน) เพื่อดับความวิตกวิจาร. และระลึกกับจิตนาการ (ดับทุกข์) วิธีการเหล่านี้มีอยู่จริงครับ... ส่วนวิธีการที่ถูกต้องนั้น มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะชอบแบบเชื่องช้าหรือเฉียบพลัน...เรียนรู้ว่าทาน ศีล สมาธิ ปัญญา แล้วค่อยๆปฎิบัติำตามลำดับ....หรือคิดๆๆจนหนึ่งผุดแล้มันก็หยุดคิด ค่อยๆคิด ค่อยๆเลือกพิจารณานะครับ...สงสัยถามต่อ...สัมมาทิฎฐิ...
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 08, 2012, 10:47:22 PM โดย ประวิต »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
man123
เด็กใหม่
พลังความดี : 22
เพศ:
อายุ: 29
กระทู้: 35
สมาชิก ID: 1324
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 09, 2012, 09:13:09 AM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ขอบคุณครับ แล้วแบบเชื่อช้ากับเฉียบพลันมันเป็นยังไงบ้าง แต่ว่าการลดทุกข์ที่ผมรู้มามันคือการเจริญวิปัสสนารู้ตามกายใจของเรา ประโยคที่ว่า(การตามรู้ในวิถีแห่งกายใจก็เป็นการผูกพันในอัตตาอีกแบบหนึ่งเท่านั้น จะผ่อนคลายได้บ้างก็เพราะความรู้สึกของเรานั้นผูกติดในการกำหนด ไม่ส่งออกไปตามผัสสะอารมณ์และตามโมนนึก) ผมว่ามันไม่ใช่การผูกติดนะครับมันเป็นการเจริญสติรู้ความจริงต่างๆว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นทุกข์อะครับหรือคือการลดทุกข์อะครับ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 09, 2012, 03:11:42 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
man123 เราปฎิบัติธรรมมานานแค่ใหนกี่ปีแล้วขอถามหน่อยครับ กลัวเป็นกัลญาธรรมชี่นำผิด เพราะภูมิธรรมสภาวะแต่ละบุคลไม่เหมือนกัน แต่สิ่งใดที่เราทำมันลงไปแล้วรู้สึกว่ามัมผ่อนคลายทุกข์ได้ และเป็นการไม่เบียดเบียนใครหรือตัวเรามันก็แนวทางเดียวกันละครับ ต่างก็แค่วิถีการ...สัมมาทิฎฐิ...
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 09, 2012, 03:41:14 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
เชื่องช้านั้นเป็นการลงมือปฎิบัติตามขั้นตอนของศัทธา เริมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ในมรรคแปดนั้แหละ แต่ลำดับจัดของการปฎิบัตินั้นคนละขั้นตอน ส่วนเฉียบพลันนั้นเป็นการทำให้มุมมองแห่งเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ให้กระจ่างชัดเสียก่อน แล้วมุมมองจะสอนให้เราปฎิบัติตามองค์มรรค8ต่างๆอย่างถูกวิธีเอง โดยไม่เป็นการซ้ำซ่อนซ่อนเงื่อนอะไร เมื่อใดเราทำความกระจ่างชัดแห่งเหตุให้กระจ่างได้ เมื่อนั้นเราจะรู้เองว่าควรทำอย่างไรดีกับชีวิตของเราในการเดินทาง...สัมมาทิฎฐิ...
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
man123
เด็กใหม่
พลังความดี : 22
เพศ:
อายุ: 29
กระทู้: 35
สมาชิก ID: 1324
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 09, 2012, 03:49:32 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ผมเพิ่งเริ่มครับ ประมาณ 4 เดือนครับผมก็อ่านบทความธรรมมะบ้างสงสัยคงจะคนละวิธีการจริงๆแหละครับเพราะผมละทุกข์โดยการรู้ รูป-นามหรือ กายใจปัจจุบัน มันก็ช่วยให้ผมลดทุกข์ได้มากขึ้นเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ปฏิบัติอะครับ หรือที่เรียนว่าเจริญวิปัสสนาอะครับ
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2012, 06:43:29 PM โดย man123 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 09, 2012, 09:13:12 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ใจเย็นๆทำต่อไปเรื่อยๆเมื่อมีศัทธาในแนวทาง และมีการปฎิบัติตามแนวทาง จะเชื่องช้า หรือเฉียบพลัน ก็ดีกว่าเราไม่รู้และไม่ใส่ใจต่อทางๆนี้เสียเลยเส้นทางมีใว้ให้เราเดิน เราก็ต้องเดินต่อไปครับ (ตถตา เช่นนั้นแหละครับ) ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เดินทางทั้งหลายนะครับ ถึงเวลาดอกไม้มันจะบานมันก็ต้องบานครับ ใครๆจะไปห้ามมันไม่ให้บานก็คงบ่ได้ดอก....สัมมาทิฎฐิ...
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2012, 09:15:57 PM โดย ประวิต »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
man123
เด็กใหม่
พลังความดี : 22
เพศ:
อายุ: 29
กระทู้: 35
สมาชิก ID: 1324
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 10, 2012, 09:05:13 AM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ขอบคุณครับ ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประวิต
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 11, 2012, 09:54:52 PM » |
|
Permalink: สัมมาทิฏฐิ - นิพพาน
ต้ังหัวข้อเอาใว้ว่า ส้มมาทิฎฐิ - นิพพาน ยังไม่ได้เขียนบทความเลย ขอถามท่านทั้งหลายซักหน่อย ขณะที่ความคิดความรู้สึกของเรากำลังผูกติดในการที่เรากำลังปวดหนัก โดยที่ไม่มีที่ๆจะให้เราระบายหรือปลดทุกข์ได้ใตอนนั้น ท่านจะกังวลแค่ใหน และจะทรมานเพียงใด ท่านก็ได้แต่ต้องอดทน และทนปลอบใจตัวเองไปเรื่อยๆ พร้อมแสวงหาที่จะปลดหรือระบายมันด้วย ในที่สุดท่านก็เจอ ท่านว่าอะไรครับ...สัมมาทิฎฐิ...
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|